ทริปเชียงคาน 3 วัน 2 คืน ไปดูเชียงคานมีอะไรน่าทำ

รีวิวทริปเชียงคาน 3 วัน 2 คืน ไปดูเชียงคานมีอะไรน่าทำ

กำลังมองหาที่เที่ยวทริปหน้าอยู่หรือเปล่า? ถ้าหากว่าใช่ ไปเที่ยวเชียงคานกันไหม เพราะเชียงคานเป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ยิ่งช่วงลมหนาวที่กำลังพัดมาแบบนี้ ที่เชียงคานมีบรรยากาศดี แถมยังมีภูทอก แหล่งชมทะเลหมอกที่สวยไม่แพ้จังหวัดไหนๆ แถมที่เชียงคานยังขึ้นชื่อเรื่องความสโลวไลฟ์ ไม่ต้องรีบร้อน เมืองไม่พลุกพล่านวุ่นวาน ที่สำคัญคือสามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเลย บินไปลงเลย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามากเท่าไหร่นัก นอกจากนั้นเชียงคานยังเป็นหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนำร่อง รับชาวต่างชาติ หรือผู้ที่บินเข้ามา เที่ยวได้ในจังหวัดเชียงคาน นอกจากจะเป็นเมืองน่าเที่ยว แล้วยังยกเลิกเคอร์ฟิวแล้วด้วย

แต่ก่อนที่จะจองตั๋วเครื่องบินไปเลย กับTraveloka อยากให้แวะส่องดูมาตรการสนามบินกันสักหน่อย > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel เพราะไม่ใช่แค่มาตรการจะอัพเดทแบบเรียลไทม์ (Real Time) แล้วนั้นยังมีครบทั้งมาตรการในประเทศ และนอกประเทศ ถ้าพร้อมแล้วก็คลิกไปจองตั๋วเครื่องบินไปเลย กันได้ที่นี่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Loei.LOE

รีวิวทริปเชียงคาน 3 วัน 2 คืน

วันที่ 1

เช็คอินที่พักเชียงคาน – สุเนต์ตา โฮสเทล เชียงคาน

หลังจากบินมาถึงเลย และนั่งรถมาต่อที่เชียงคานก็มาแวะเช็คอินกันสักหน่อย อันที่จริงแล้วที่พักเชียงคานก็มีให้เลือกมากมายหลายแห่ง แต่ถ้าอยากได้ที่พักเชียงคานแนะนำ “สุเนต์ตา โฮสเทล เชียงคาน” เป็นที่พักเชียงคานที่ฮอตฮิต เพราะตั้งอยู่ภายในตัวเมืองเชียงคาน มีลักษณะเป็นบ้านไม้ ที่ติดกับแม่น้ำโขง เวลาตื่นเช้ามาจะมองเห็นแม่น้ำโขงได้สุดฟิน นอกจากนั้นทำเลของที่พักแห่งนี้ยังดีสุดๆ เพราะว่าอยู่ใกล้กับที่เที่ยวหลายแห่ง หรืออยากจะตื่นเช้ามาตักบาตรข้าวเหนียวก็ย่อมได้

ใครที่กำลังมองหาที่พักเชียงคาน หรือจองตั๋วเครื่องบินไปเชียงคานแล้วไม่รู้จะนอนที่ไหนดี ขอนำเสนอ “สุเนต์ตา โฮสเทล เชียงคาน” ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก แต่อาจจะต้องรีบกันสักหน่อย เพราะที่พักเชียงคานแห่งนี้นั้นมีจำนวนห้องไม่เยอะเลย

สโลวไลฟ์เดินเที่ยวริมแม่น้ำโขง

ถือว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ กับกิจกรรมสุดฮิตของนักท่องเที่ยว ที่มาถึงเชียงคานแล้วก็ต้องมาเดินเล่นชิลล์ๆ ถ่ายรูปกับวิวแม่น้ำโขง ซึ่งถ้าหากว่าใครนอนบริเวณถนนคนเดินเชียงคาน ก็จะอยู่ใกล้แม่น้ำโขง สามารถเดินเล่นได้แบบไม่รู้เบื่อ ส่วนใหญ่แล้วคนจะเยอะช่วงยามเย็น อีกฝั่งของแม่น้ำโขงก็จะคือประเทศลาว ทำให้วัฒนธรรมของเชียงคานหลายอย่างก็มีอิทธิพลมาจากฝั่งลาว หนึ่งในนั้นคือการตักบาตรข้าวเหนียวนั่นเอง

เดินเล่นถนนคนเดินเชียงคาน

พอพระอาทิตย์ตกดิน แดดเริ่มคล้อยหายไป และความมืดเริ่มมาเยือน เมืองเชียงคานก็กลับมาชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยแสงไฟ รวมถึงถนนคนเดินที่คึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งหลายเมื่อมาเที่ยวเชียงคาน ต่างก็ออกมาเดินเล่น กินข้าวเย็น และช้อปปิ้งของที่ระลึกบริเวณถนนคนเดินนี้ จึงอยากแนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากเดินทางนาน หรืออยากพักใกล้ๆ กับแหล่งที่เที่ยว รวมถึงอยากจะออกมาเดินเล่นที่บริเวณถนนคนเดิน แนะนำว่าพักที่บริเวณนี้ก็เหมาะเลยทีเดียว

อันที่จริงถนนคนเดินเชียงคานก็อาจจะไม่ได้แตกต่างกับถนนคนเดินทั่วไป แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือเมนูของกินท้องถิ่นของที่นี่ หากใครชอบกินส้มตำ บอกเลยว่าต้องถูกใจ เพราะส่วนใหญ่แล้วเป็นส้มตำแบบหลวงพระบาง หรือส้มตำที่นัวได้รสอีสานแบบแท้ๆ อีกทั้งถนนคนเดินเชียงคานยังเต็มไปด้วยร้านรวง มีทั้งของกิน เสื้อผ้า หรือของกระจุกกระจิกมากมาย เอาเป็นว่าสายช้อปจะต้องถูกใจ

วันที่ 2

ภูทอก

อยากเห็นวิวสวยๆ และทะเลหมอก ก็ต้องมาปักหมุดไว้ที่ “ภูทอก” เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คชื่อดังของเชียงคาน ที่บอกเลยว่าวิวอลังการ ควรค่าแก่การมาเที่ยวเป็นอย่างมาก หากใครพักบริเวณเมืองเชียงคาน การมาเที่ยวที่ภูทอกก็ไม่ลำบากมากนัก เพราะห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตรแต่เพียงเท่านั้น แถมยังขับรถมาเองได้ไม่ลำบากด้วย

แต่การที่จะมาให้ทันทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าก็อาจจะต้องตื่นเช้ากันสักหน่อย ทางที่ดีออกจากที่พักประมาณตี 4-5 ก็จะไปทันอยู่ เมื่อขึ้นไปยังด้านบนคุณจะมองเห็นวิวสวยๆ แบบพาโนราม่า ที่มองไกลไปได้ถึงฝั่งลาวเลยทีเดียว มองเห็นทั้งเมืองสานะคาม แม่น้ำโขง และแก่งคุดคู้ โดยการเดินทางมายังภูทอกก็ไม่ลำบากเลย เพราะนั่งรถมาข้างบนก็ถึง ไม่ต้องเดินให้เมื่อย และไม่ได้มีอุปสรรคมากมายนัก หากอยากมาเที่ยวทั้งครอบครัว มีผู้สูงอายุ ก็มาเที่ยวภูทอกได้สบายๆ

บอกก่อนว่าหากไปเที่ยวเชียงคานในช่วงปลายปี ก็อาจจะมีลุ้นเห็นทะเลหมอก เพราะไม่ได้มีให้ดูกันได้ทุกวัน แนะนำให้เช็คสภาพอากาศ หรือถามชาวบ้านแถวนั้นดูก็ได้ หรือใครตื่นเช้าไม่ไหว จะขึ้นไปยังภูทอกเพื่อชมวิวสวยๆ แบบที่ไม่มีทะเลหมอกก็ได้อีกเช่นเดียวกัน รับรองว่าสวยคุ้มค่าแก่การไปถึงแน่นอน

เที่ยวแก่งคุดคู้

จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงคานแล้วนอกจากจะไปภูทอกแล้ว แก่งคุดคู้ก็เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาดอีกเช่นเดียวกัน การเดินทางไปยังแก่งคุดคู้ก็ไม่ยากอีกเช่นเดียวกัน เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 3 กิโลเมตร ใครที่ขยันหน่อย อยากเที่ยวแบบวิถีสโลวไลฟ์ก็จัดไปเลย ขี่จักรยานไปได้แบบชิลล์ๆ

สำหรับแก่งคุดคู้มีจุดเด่นตรงที่เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงสวยๆ เวลาที่มองไปจะเห็นวิวแม่น้ำโขง และฉากหลังเป็นภูเขา ซึ่งนั่นก็คือ “ภูควายเงิน” ปกติแล้วถ้ายามอากาศดีก็จะเห็นฉากภูเขาอย่างชัดเจน หรือถ้าใครอยากถ่ายรูปบรรยากาศสวยๆ แนะนำให้มาตอนเช้าช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ก็จะเห็นวิวแก่งคุดคู้ในอีกรูปแบบหนึ่ง

ส่วนใหญ่แล้วถ้าหากใครอยากมาเที่ยวแก่งคุดคู้แล้วมองเห็นหิน และแก่ง อยากให้มาเที่ยวกันในช่วงที่น้ำแห้ง เพราะถ้าหากมาช่วงที่น้ำหลากก็จะมองไม่เห็น ซึ่งช่วงที่น้ำหลากก็คือ กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม ของทุกปี

ล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขง

มาถึงเชียงคานทั้งทีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ ก็คือการนั่งเรือล่องชมแม่น้ำโขง และชมวิถีชีวิตของสองฝั่งโขง แล้วคุณจะฟินไปกับบรรยาศสวยๆ ของสองฝั่งแม่น้ำ ปกติแล้วล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขง ก็จะต้องเหมาเรือไป หากใครที่ไปเที่ยวหลายคน หรือไปเป็นแบบครอบครัวใหญ่ หารออกมาตกคนละไม่กี่บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับวิวสวยๆ อีกหนึ่งตัวเลือกคือการไปล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขงในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องเก็บใส่ไว้ในลิสต์

หาของกินท้องถิ่นเมืองเชียงคาน

สำหรับค่ำคืนนี้เราแพลนไว้แล้วว่าจะเดินหาของกินอร่อยๆ เมืองเชียงคานไปเรื่อยๆ และจะมาแนะนำเมนูที่มาเที่ยวเชียงคานแล้วไม่ควรพลาดเลยจริงๆ โดยเมนูแรกก็คือ “ข้าวจี่” ที่เชื่อว่าหลายคนได้กลิ่นก็คงน้ำลายสอกันแล้ว เพราะว่าเดินไปทางไหนก็จะเจอแต่ร้านที่ขายข้าวจี่เต็มไปหมด ข้าวจี่จะเป็นข้าวเหนียว ที่ถูกชุบไข่ และมีการปรุงรสมาแล้วก่อนนำมาปิ้ง กินตอนอากาศเย็นๆ บอกเลยว่าฟินสุด

“กุ้งฝอยย่าง” เป็นเมนูยอดฮิตที่ไม่ว่าจะเดินไปร้านไหนก็เจอ เพราะชาวบ้านสามารถลงไปงมหากุ้งฝอยได้ในแม่น้ำโขง จึงเกิดเป็นเมนูนี้ที่หากใครชอบกิน คงจะฟินน่าดู เพราะกุ้งฝอยกรอบๆ ย่างมาร้อน อร่อยเหาะอย่าบอกใคร นอกเหนือจากเมนูกุ้งฝอยย่าง ก็จะมีอาหารทะเลเสียบไม้ย่างให้เลือกอีกเพียบ

มาเยือนถิ่นอีสานทั้งที ถ้าหากไม่ได้ลองรสชาติของหมูยอ ก็เหมือนจะมาไม่ถึง สำหรับเมนูสตรีทฟู้ดอีกหนึ่งอย่างของเชียงคานที่อยากจะให้ลิ้มลอง ก็คือ “หมูยอนึ่ง” ยิ่งหากใครที่มาเยือนเชียงคานในช่วงที่มีลมเย็นพัดมาแล้ว การแวะซื้อหมูยอนึ่งร้อนๆ จะช่วยบรรเทาความหนาวได้ดี หากใครมาเดินถนนคนเดินเชียงคาน ก็จะเห็นเมนูนี้วางขายทั่วไป

ปิดท้ายด้วยเมนูที่เห็นวางขายกันเยอะมาก ซะจนนึกอยากชิม นั่นก็คือ “ปูปิ้ง” ที่ฮิตสุดไม่แพ้เมนูกุ้งฝอยย่างเลย สำหรับปูปิ้งจะเป็นปูตัวเล็กๆ ที่สามารถเคี้ยวได้แบบพอดี กลิ่นย่างหอมมาแต่ไกล รสชาติออกแนวหวาน หอมมัน ใครที่ยังไม่เคยชิม บอกเลยต้องโดน

วันที่ 3

ตักบาตรข้าวเหนียว

กิจกรรมสุดฮิตของนักท่องเที่ยวเวลาจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวเชียงคาน ก็คือการตักบาตรข้าวเหนียว อันเป็นประเพณี และวัฒนธรรมที่ส่งอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนใหญ่แล้วตามโรงแรม หรือที่พักภายในเชียงคานก็จะมีการตระเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่เอาไว้ใส่บาตรให้อยู่แล้ว ถ้าใครยังไม่เคยบอกเลยว่าต้องลอง ยอมตื่นเช้าสักนิด แต่ได้ทำบุญด้วยการตักบาตรข้าวเหนียวก็ถือว่าคุ้ม

วัดศรีคุณเมือง

แวะไหว้พระกันก่อนกลับกรุง ที่ “วัดศรีคุณเมือง” วัดคู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงคาน หากมีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยวเชียงคานก็อยากจะให้แวะมาเที่ยวกัน วัดนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างลานนา และล้านช้าง บริเวณด้านหน้าของอุโบสถ จะเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง ส่วนด้านในพระอุโบสถจะมีพระพุทธรูปปฏิมาประทับขัดสมาธิราบนาคปรกอันเก่าแก่ ที่มีอายุอานามมากกว่า 300 ปีมาแล้วด้วยกัน

ถึงเวลาเที่ยวเชียงคานครบ 3 วัน 2 คืนแล้ว ก็ได้เวลาจองตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพ ที่ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ทั้งนี้หากใครที่กำลังมองหาทริปโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเบื่อที่จะไปเที่ยวโซนภาคเหนือแล้ว ขอแนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวเชียงคาน ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ