20 สถานที่กางเต็นท์ดูดาว
20 สถานที่กางเต็นท์ดูดาว รับลมหนาวฟีลเมืองนอกสุดปัง
หนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตช่วงปลายปี เชื่อเลยว่าต้องมีการกางเต็นท์รับลมหนาวรวมอยู่ด้วยแน่ๆ วันนี้เราเลยถือโอกาสรวบยอดสถานที่กางเต็นท์วิวสวยๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่เมืองนอกมาไว้ให้ส่องกัน เพื่อเป็นตัวช่วยการเที่ยวรับลมหนาวที่หลายคนกำลังมองหา ปักหมุดได้แล้วไปส่องตั๋วเครื่องบินดีลดีๆ ได้ ในเว็บไซต์ Traveloka นะ เพราะว่าเค้ามี Feature ใหม่ที่จะช่วยเปรียบเทียบราคาตั๋วและโปรโมชั่นจากทุกสายการบินให้เราด้วย คราวนี้ก็ชิลล์สิจ๊ะ เพราะจะได้ตั๋วราคาดีที่สุดแบบไม่ต้องเปลืองแรงหาเองแต่อย่างใด แล้วถ้าจะให้ดี อากาศแบบนี้ขับรถเที่ยวเองคือแฮปปี้สุดๆ จ้า แน่นอนว่า Traveloka เค้าก็มีบริการรถเช่าให้ได้ใช้กันด้วยนะ จองเลย > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental รับรองว่าราคาดีแถมสะดวกและปลอดภัย ง่ายๆ ครบๆ จบในเว็บเดียวเลย
20 ที่เที่ยวกางเต็นท์ฟีลเมืองนอก
1. ดอยแม่โถ / เชียงใหม่
เป็นพิกัดสุดเฟี้ยวแห่งหนึ่งที่มาแรงมากในปี 2020 นี้ ด้วยความที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนซึ่งชาวบ้านเคยใช้เป็นพื้นที่ทำการเกษตร ทำให้ที่นี่เป็นเขตเขาสูงซึ่งมีแต่ทุ่งหญ้าโล่งกว้างไร้สิ่งบดบังสายตาใดๆ ที่เริ่ดคือดอยแม่โถมีพื้นที่ให้กางเต็นท์กันได้ด้วยเด้อ โล่งขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตื่นมาตอนเช้าวิวจะว้าวขนาดไหน แล้วตอนกลางคืนจะเห็นดาวชัดเต็มตายังไง อากาศจะหนาวมั้ย โอ๊ยยย รับรองได้ว่ามาครบจ้ะ อยากเพิ่มความฟิน ให้จินตนาการว่านอนอยู่บนภูเขาในสวิสนะ เราว่าใกล้เคียง
2. ป่าสนวัดจันทร์ / เชียงใหม่
ถ้าอยากได้ที่กางเต็นท์สบายๆ แต่ได้ฟีลเหมือนอยู่กลางป่าในยุโรป ป่าสนวัดจันทร์คือช้อยส์ที่เด็ดพอตัวเชียวละ ด้วยความที่เป็นเนินเขาซึ่งปกคลุมด้วยป่าสนสองใบและสามใบ รายล้อมรอบอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ให้ฟีลคล้ายๆ ปางอุ๋งเลยนะ เพียงแต่ว่าตรงนี้ขับรถง่ายกว่าถ้าคุณไม่อยากฝ่าทางโค้งนับร้อยของแม่ฮ่องสอน แถมเค้ามีการปลูกต้นเมเปิ้ลสลับสับเปลี่ยนเอาไว้ในป่าอีกด้วยจ้า ช่วงประมาณเดือนมกราคมที่นี่จึงจะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดูเพิ่มเป็นโบนัส อยากนอนเต็นท์วิวดีแบบเดินทางสะดวกสบาย จัดที่นี่ได้เลย
3. มอหินขาว / ชัยภูมิ
สำหรับสายดูดาว เราแนะนำว่ามอหินขาวเจ้าของฉายา ‘สโตนเฮ้นจ์เมืองไทย’ คือหนึ่งในพิกัดที่ไม่น่าจะทำให้คุณผิดหวัง เพราะที่นี่ตั้งอยู่บนยอดเขาของภูแลนคา ซึ่งแม้จะไม่สูงมากนักแต่ด้วยความที่ไม่ใช่เมืองหลัก จึงไม่ค่อยมีแสงสว่างมารบกวนสายตา กลางคืนก็มองหาดาวได้ชัดๆ ส่วนตอนเช้าก็อาจจะมีหมอกให้เห็นรอบๆ เต็นท์เลยน้า ช่วงหนาวจัดๆ อุณหภูมิที่นี่อาจจะไปถึงเลขตัวเดียวเลยจ้า ใครอยากดูดาวท่ามกลางอากาศหนาวๆ และวิวเสาหินไซส์ยักษ์แปลกตา ปักหมุดมาเลยจ้า เราเชื่อว่าแฮปปี้ชัวร์
4. ทุ่งแสลงหลวง / พิษณุโลก
นี่คือผืนป่าที่ได้ชื่อว่าเป็นสะวันนาของเมืองไทย และมีขนาดกว้างใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ ความเด็ดจึงอยู่ที่วิวสวยแปลกตา โดยเฉพาะในเวลาแสงสวยๆ อย่างตอนเช้าหรือช่วงทไวไลท์ยามเย็น แถมการมากางเต็นท์กลางป่าสนของที่นี่ก็ยังมีดาวแจ่มๆ ให้ดูตอนกลางคืนด้วยนะ แล้วถ้ายังไม่สะใจ เค้ามีเจ้าหน้าที่พาไปนั่งรถส่องสัตว์ด้วยจ้า ถึงจะไปกางเต็นท์นอนกลางสะวันนาในอัฟริกากันไม่ได้ แต่ที่สะวันนาเมืองไทยก็ไปกางเต็นท์กันได้นะ รับรองว่าน่าจะฟิน
5. ดอยแม่ตะมาน / เชียงใหม่
อีกหนึ่งพิกัดที่อยากชวนให้มากางเต็นท์นอนดูดาวกันเพราะเชื่อว่าสวยปังไม่แพ้ใคร ก็คือที่ดอยแม่ตะมานแห่งนี้นี่ละ เพราะเป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ซึ่งเป็นที่ทดลองปลูกไม้เมืองหนาวหลายชนิดอย่าง บ๊วย ท้อ หรือดอกป๊อปปี้สีสดใส และมีไฮไลท์สุดปังอย่างดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เป็นวิวที่ทำให้เราแอบนึกถึง Table Mountain ในอัฟริกานิดๆ เหมือนกันนะ ส่วนดาวไม่ต้องพูดถึงจ้ะ รับรองว่ากลางคืนคือเพียบ! เป็นอีกพิกัดกางเต็นท์ที่เฉียบมาก ปักหมุดเลย
6. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน / เพชรบุรี
สำหรับใครที่อยากสวนกระแส และอยากหาที่กางเต็นท์แบบไม่ต้องปีนขึ้นที่สูงดูบ้าง ลองเก็บแก่งกระจานเอาไว้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจดูนะ เพราะนี่คือพิกัดซึ่งเชื่อว่าทุกเพศทุกวัยที่มีใจรักการผจญภัยสามารถไปนอนเต็นท์ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้หมด แล้วยังเดินทางง่าย เข้าถึงได้สะดวกมาก มีห้องน้ำให้บริการ แถมมีลานกางเต็นท์ชิลล์ๆ ที่ไม่ต้องป่ายปีน ที่เริ่ดคือมีจุดกางเต็นท์หลายจุดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเลหมอก ภูเขาสลับซับซ้อน หรืออ่างเก็บน้ำกว้างๆ ในวันที่อากาศดีก็ยังมีดาวให้ดูด้วยนะ ถึงอาจจะน้อยกว่าบนภูเขาแต่ก็มีให้ดูน่า เทียบกับความสะดวกสบายแล้วเราว่าก็โอเคเลย
7. ภูสอยดาว / อุตรดิตถ์
มั่นใจว่าบนยอดเขาซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทยแห่งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งพิกัดกางเต็นท์ที่จะทำให้คนรักดาวแฮปปี้แบบสุดๆ ได้แน่นอน เพราะด้วยความสูง 2,102 เมตร ณ จุดกางเต็นท์ลานสน จะเป็นจุดที่เห็นดาวเกลื่อนฟ้ากันได้แบบจุกๆ ไปเลยจ้า ชื่อก็บอกแล้วนี่นาว่าภูสอยดาว ก็ต้องแน่นๆ ใกล้ๆ ชนิดที่เหมือนจะเอาไม้สอยลงมาได้เลยเชียวละ ป่าสนของที่นี่ยังให้ฟีลแบบอัฟริกาหน่อยๆ ด้วยนะ เตรียมแข้งขาข้อเข่ากันให้ดี แล้วรีบแพ็คกระเป๋าไปสอยดาวที่ภูนี้ได้เลย
8. เขาใหญ่ / นครราชสีมา
ถ้าพูดถึงพิกัดกางเต็นท์ยอดฮิตที่ให้ฟีลเหมือนอยู่ในทวีปอัฟริกา บอกเลยว่าเขาใหญ่ต้องมาแล้วละ เพราะนอกจากจะเดินทางง่ายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้อย่างครบครันแล้ว เขาใหญ่ยังมีอากาศเย็นสบาย แถมเป็นพิกัดที่เราจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับบรรดาสัตว์ป่าตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิดชนิดมาติดเต็นท์กันเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นน้องเก้ง น้องกวาง น้องช้าง หรือน้องหมูป่า ถ้าอยากนอนเต็นท์สบายๆ แต่ได้ฟีลเหมือนอยู่ในป่าลึกนะ เชื่อว่าเขาใหญ่จะไม่ทำให้ผิดหวังเลย
9. ภูกระดึง / เลย
ยืนหนึ่งในเรื่องการเป็นพิกัดกางเต็นท์รับลมหนาวสุดคลาสสิกไม่แพ้ใคร เพราะรสชาติของความยากลำบากในการไต่ขึ้นไปจนถึงจุดกางเต็นท์ ด้วยระยะทางเกือบ 9 กิโลเมตรของที่นี่นั้น ขึ้นชื่อลือชานักละว่าเด็ด! แถมขึ้นไปได้ก็ยังต้องเดินอีกหลายสิบกิโลเมตรจ้า เพื่อจะตามหาจุดเช็คอินและพิกัดชมวิวในตำนานให้ทั่วๆ กัน แต่ด้านบนภูกระดึงนั้นค่อนข้างสะดวกสบายเพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายข้าวของเครื่องใช้ แถมยังมีวิวที่ให้ฟีลสะวันนาแบบเบาๆ ช่วงต้นหน้าหนาวในเดือนพฤศจิกาก็มีเมเปิ้ลเปลี่ยนสีให้ดูในหลายจุดเชียวละ ช่วงค่ำๆ ก็ฟันธงให้เลยว่าเห็นดาวเต็มฟ้าไม่แพ้ที่ไหน แถมบางวันถ้าหนาวจัดยังมีแม่คะนิ้งให้ได้ดูด้วยนะ เหนื่อยแต่คุ้มจ้า คอนเฟิร์มเลยว่ามัน!
10. ปางอุ๋ง / แม่ฮ่องสอน
นับว่าเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่พลาดไม่ได้ เมื่อพูดถึงการออกไปกางเต็นท์รับลมหนาว กับความสวยของป่าสนและอ่างเก็บน้ำที่มาพร้อมดาวจุกๆ ในตอนค่ำ และไอหมอกที่ลอยกรุ่นเหนือผิวน้ำในยามเช้า เพราะสวยเบอร์นี้ ปางอุ๋งจึงครองฉายาสวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทยเอาไว้อย่างเหนียวแน่นแบบไม่เคยมีใครล้มแชมป์ได้ ที่สำคัญคือเดินทางได้สะดวกสบายด้วยรถยนต์ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่คนรักการกางเต็นท์แต่ไม่อยากตรากตรำมองข้ามไม่ได้จริงๆ
11. ม่อนสน / เชียงใหม่
เป็นจุดชมวิวไฮไลท์อีกหนึ่งแห่งในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โดยเป็นพิกัดที่คนอยากนอนเต็นท์แต่ไม่อยากลำบากน่าจะแฮปปี้ เพราะที่นี่เดินทางง่าย แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายแบบครบเซ็ต ด้วยความสูงถึง 1,928 เมตร ทำให้วิวที่จะเห็นตรงหน้าเมื่อรูดซิปเต็นท์ออกมานั้นมีทั้งทิวเขาน้อยใหญ่ และถ้าโชคดีก็อาจจะมีทะเลหมอกให้ได้เห็นกันอีกด้วยนะ แหงนหน้าขึ้นไปก็จะได้เห็นดาวเต็มฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้มาพร้อมอากาศหนาวๆ ที่ให้ฟีลเหมือนอยู่เมืองนอกด้วยจ้า เป็นจุดกางเต็นท์อีกจุดนึงละที่ฟินจริงๆ
12. ภูเรือ / เลย
ออกจากตัวจังหวัดเลยมาไม่ถึง 50 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จะมาถึงอุทยานแห่งชาติภูเรือ ยอดเขาที่มีความสูง 1,365 เมตร และเป็นอีกหนึ่งพิกัดยอดฮิตทางฝั่งอีสานที่คนรักการกางเต็นท์นึกถึง อย่างที่รู้กันว่าเลยคือจังหวัดซึ่งหนาวที่สุดในเมืองไทย ใครที่อยากไปสัมผัสความเย็นฉ่ำจึงมั่นใจได้เลยจ้ะว่าเจอแน่ บางวันหนาวถึงขั้นมีแม่คะนิ้งให้ชมกันด้วยเด้อ นอกจากวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวเขาสวยๆ แล้ว ภูเรือยังมีสวนไม้ดอกเมืองหนาวให้ได้เดินชมกัน รวมถึงมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้สายลุยได้เดินเที่ยวอีกด้วยนะ เป็นพิกัดที่ครบมากจ้า รับรองว่าเพลินแน่นอน
13. สถานีเกษตรหลวงขุนวาง / เชียงใหม่
ถ้าบินไปชมเทศกาลฮานามิในญี่ปุ่น อย่างมากเราก็ได้เดินดูความสวยของซากุระกันใต้ต้นใช่มั้ย? แต่เทศกาลฮานามิแบบไทยๆ เราจะได้กางเต็นท์นอนกันใต้ต้น ชมความสวยของดอกนางพญาเสือโคร่งกันในระยะประชิดเลยเชียวละ ถ้าอยากได้ฟีลแบบนั้น ปักหมุดสถานีเกษตรหลวงขุนวางกันเลยจ้า กลางคืนนอนดูดาว ตื่นเช้ามาก็ได้เห็นซากุระเมืองไทยอยู่ตรงหน้า แถมมาพร้อมอากาศหนาวๆ และหมอกขาวๆ ด้วยนะ กะจังหวะดอกไม้บานให้ดีๆ รับรองเลยว่าแฮปปี้แน่นอน
14. ม่อนแจ่ม / เชียงใหม่
เมื่อพูดถึงพิกัดนอนเต็นท์ยอดฮิตของเมืองเชียงใหม่ จะพลาดม่อนแจ่มไปไม่ได้จริงๆ เพราะนอกจากจะสะดวกสบายและเดินทางง่ายมาก แถมอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองด้วยแล้ว ม่อนแจ่มยังมีที่เที่ยวสวยๆ ทั้งทุ่งดอกไม้ และแปลงพืชผลเมืองหนาวอย่างสตรอว์เบอร์รี่และอีกมากมายให้ได้แวะชมกัน บนม่อนแจ่มนั้นยังมีเต็นท์หลากหลายรูปแบบและระดับราคาให้ได้เลือกนอนกันด้วยเด้อ แถมไฮไลท์ยังเป็นการได้นั่งกินหมูกระทะแบบชิลล์ๆ หน้าเต็นท์ตอนค่ำอีกนะ ม่อนแจ่มนี่เค้าแจ่มสมชื่อจริงๆ จ้ะ มาเลย
15. บ้านจ่าโบ่ / แม่ฮ่องสอน
ถ้าใฝ่หาการกลางเต็นท์ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ที่แวดล้อมไปด้วยหมอกขาวๆ และวิวทิวเขาสวยๆ ตบท้ายด้วยดาวกระจายเกลื่อนฟ้าแบบเต็มๆ ตา บอกเลยว่าการมากางเต็นท์ที่บ้านจ่าโบ่คือหนึ่งในพิกัดที่ต้องลงลิสต์เอาไว้ โดยเฉพาะสำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวสไตล์ท้องถิ่น ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนและวัฒนธรรมที่แปลกหูแปลกตาของชาวมูเซอดำ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านในละแวกนี้ อยากฟินกับทะเลหมอกแบบจัดหนักสะใจ บ้านจ่าโบ่นี่ละใช่เลย
16. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน / ลำปาง
ถ้าไม่ติดที่ว่าจะต้องหาที่กางเต็นท์บนเขาสูง ตื่นเช้ามาดูทะเลหมอกแบบสุดอลังการ แนะนำเลยว่าอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนคืออีกจุดกางเต็นท์ที่น่าสนใจ นอกจากจะเดินทางได้ง่าย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายแบบครบครัน ซึ่งเหมาะแก่การมาเสพธรรมชาติสำหรับคนทุกเพศทุกวัยแล้วนะ ตอนค่ำๆ ที่นี่ก็ยังมีดาวให้นอนดูกันเยอะไม่แพ้ที่ไหน แถมที่เริ่ดคือมีบ่อให้เดินไปแช่น้ำร้อนออนเซ็นเมืองไทยได้แบบสบายๆ เลยจ้า ลองมาซักครั้งอาจจะลืมเรียวกังของญี่ปุ่นไปเลยก็ได้น้า อยากรู้ว่าเริ่ดขนาดไหนมาลองได้เลย
17. ภูทับเบิก / เพชรบูรณ์
พิกัดกางเต็นท์ที่หลายคนยกให้เป็นอีกหนึ่งวิวสวิสเมืองไทย เพราะรอบด้านของลานกางเต็นท์ในภูทับเบิกนั้น เมื่อมองจากมุมสูงออกไปจะเห็นทะเลภูเขาสุดลูกหูลูกตา บนภูทับเบิกนั้นมีลานกางเต็นท์ให้เลือกหลายแห่งเลยนะ ถ้าอยากได้ความสะดวกสบายแบบจัดหนัก แนะนำให้เลือกลานกางเต็นท์ที่เป็นของเอกชนเด้อ ไฮไลท์ในการมานอนท้าลมหนาวที่ภูทับเบิกซึ่งดึงดูดให้ทุกคนอยากมา ก็ต้องเป็นทะเลหมอกหนาๆ แน่นๆ ในตอนเช้านี่ละ ส่วนตอนดึกก็ไม่ต้องห่วงเรื่องดาวเพราะพรึ่บพรั่บจ้า บอกเลยว่าเป็นอีกพิกัดที่น่าปักหมุดช่วงหนาวนี้จริงๆ
18. ดอยม่อนจอง / เชียงใหม่
สำหรับใครที่เป็นสายลุย มีความสุขกับการได้เก็บเกี่ยวความสนุกและประสบการณ์ระหว่างทางเดินขึ้นดอยที่มีรสมีชาติ ดอยนี้อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา ที่นี่มียอดดอยสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,929 เมตร ซึ่งต้องออกแรงเดินขึ้นไปราว 4 กิโลเมตรนิดๆ ด้านบนเป็นภูเขาหญ้าสีทองสวยกว้างสุดสายตา ซึ่งเมื่อคุณเปิดเต็นท์ออกมาในตอนค่ำก็จะได้เห็นดาวเต็มฟ้าแบบไม่มีอะไรมาบดบัง มาดอยนี้ต้องจองกันล่วงหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอก่อนเด้อ แต่มาเหอะ ปีนึงเค้าเปิดให้ขึ้นได้ไม่กี่เดือนเท่านั้นจ้า สวยมาก ปังมาก ไม่อยากให้สายธรรมชาติพลาดจริงๆ
19. ดอยเสมอดาว / น่าน
นับเป็นไฮไลท์อันดับต้นๆ ของการไปรับลมหนาวในเมืองน่าน ซึ่งปกติแล้วจะเปิดให้เข้าไปกางเต็นท์กันได้ช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์เท่านั้นจ้า และชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าดอยเสมอดาว ตอนค่ำๆ จึงมั่นใจได้เลยว่ามีวิวโรแมนติกบนท้องฟ้าให้ได้เห็นกันแน่นอน ดอยเสมอดาวนั้นเป็นอีกพิกัดกางเต็นท์รับลมหนาวที่เดินทางง่าย ไม่ต้องลำบากลำบนขนของบุกป่าฝ่าดงเดินขึ้นไป ใครอยากฟินกับอากาศเย็นๆ และดาวสวยๆ แบบง่ายๆ ไปที่นี่ด่วนๆ เลย
20. ดอยหลวงเชียงดาว / เชียงใหม่
ปิดท้ายพิกัดกางเต็นท์เอาใจสายลุยที่ชอบเดินเขาแบบจัดหนักจัดเต็มกันที่ดอยหลวงเชียงดาว ภูเขาสูงอันดับที่ 3 ของประเทศไทย โดยการไปที่นี่ต้องแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานเชียงดาวล่วงหน้า และขอบอกว่าตลอดเส้นทางเดินประมาณ 6.5 กิโลเมตรไปจนบริเวณยอดเขานั้นไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้นเด้อ แต่บอกได้เลยว่าวิวที่จะเจอด้านบนนั้นคือว้าวจ้า จากจุดกางเต็นท์จะมีเส้นทางเดินต่อไปยังจุดดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกอีกสองจุดนะ ส่วนดาวไม่ต้องพูดถึง วันฟ้าเปิดคือเห็นแบบเต็มๆ ตาจ้ะ ถ้าชอบลุยและกำลังขาดี ห้ามพลาดที่นี่จริงๆ
เพราะฤดูหนาวในบ้านเรานั้นสั้นมากกกก ถ้าอยากไปกางเต็นท์รับลมหนาวกันซักครั้งก็อย่ามัวรั้งรอนะจ๊ะ เพราะการไปสัมผัสธรรมชาตินอนดูดาวท่ามกลางอากาศเย็นๆ น่ะ คือจุดมุ่งหมายของนักเดินทางชาวไทยเกือบทุกคนในช่วงนี้ รีบเล็งพิกัดที่ใช่แล้วเตรียมตัวให้ดีเลยจ้า คิดนานเกินไปเดี๋ยวลมหนาวหายหมดอดไปเสพวิวสวยกับอากาศชิลล์ๆ สุดฟินเหมือนได้บินไปเมืองนอกกันนะ เลือกพิกัดที่ใช่แล้วแพ็คกระเป๋าได้เลยจ้ะ รับรองว่าแฮปปี้แน่นอน