30 ที่เที่ยวทั่วไทย น่าไปช่วง Greenery Season

พาชม 30 ที่เที่ยวทั่วไทย น่าไปช่วง Greenery Season

ใครๆ ก็บอกว่าหน้าฝนเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการเที่ยวในเมืองไทย ไหนจะเฉอะแฉะ ไหนจะเดินทางได้ยากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย แต่รู้มั้ยว่าจริงๆ แล้วการเที่ยวหน้าฝนนั้นมีดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยนะ ทั้งค่าที่พักหรือค่าตั๋วเครื่องบินซึ่งมักจะลดราคาถูกกว่าในช่วงอื่น อากาศก็เย็นสบาย แดดไม่ร้อนจัด แถมยังมีหลายพิกัดที่ช่วงหน้าฝนจะสวยที่สุดกว่าฤดูไหนๆ ลองดูที่เที่ยวหน้าฝนซึ่งเรารวบรวบมาไว้ให้คราวนี้ก่อนก็ได้ แล้วถ้าสนใจไปจัดตั๋วเครื่องบินกันได้จากเว็บไซต์ Traveloka เลยจ้า จองง่ายแถมได้ราคาดี แล้วจะรู้ว่าเที่ยวหน้าฝนน่ะแฮปปี้ขนาดไหน!

30 ที่เที่ยวไทยช่วงหน้าฝน

  1. หินสามวาฬ – บึงกาฬ

ฤดูฝนจะเป็นช่วงที่ภาคอีสานสวยฉ่ำไปด้วยสีเขียวของนาข้าวและต้นไม้ ยิ่งถ้าได้ขึ้นมาเห็นวิวสวยสะใจในมุมสูงกันที่หินสามวาฬ ซึ่งเป็นภูเขาหินเกลี้ยงเกลาท่ามกลางต้นไม้ ซึ่งถ้ามองจากมุมสูงลงไปจะเหมือนเราได้เห็นวาฬพ่อ แม่ ลูก ว่ายน้ำเคียงกันยังไงยังงั้น แนะนำให้มาที่นี่ตอนเช้านะ จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นแถมอากาศก็ไม่ร้อนเกินไป หน้าฝนแบบนี้ยังมีทะเลหมอกเกิดให้ชมกันบ่อยกว่าในฤดูอื่นด้วยจ้า สายธรรมชาติน่าจะฟินเชียว

2. เขื่อนรัชชประภา – สุราษฎร์ธานี

ข้อดีข้อหนึ่งของเขื่อนรัชชประภา คือการเป็นพิกัดที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าชอบอากาศฉ่ำๆ เย็นสบาย มองไปมุมไหนก็ได้เจอกับความเขียวขจี ก็แนะนำให้มาที่นี่ในฤดูฝนนี่ละ เพราะนี่คือฤดูที่เหมาะจะมาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์พักใจด้วยการนั่งๆ นอนๆ เสพอากาศดีๆ และธรรมชาติ ที่เริ่ดคือช่วงเช้าจะมีโอกาสได้เห็นหมอกขาวๆ กันบ่อยกว่าในฤดูอื่นด้วยนะ เชื่อว่าจะได้ความสดชื่นแบบสุดๆ กลับไปแน่นอน

3. ภูสอยดาว – อุตรดิตถ์

นอกจากจะเป็นหนึ่งในเส้นทางที่เดินป่าได้รสได้ชาติที่สุดแห่งหนึ่งแล้วนะ ภูสอยดาวยังมีความสวยพีคของทุ่งดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนเบ่งบานกระจายเต็มผืนป่าให้ชมกันแบบเต็มตาในฤดูกาลนี้ แม้การเดินป่าในช่วงหน้าฝนจะไม่ง่าย แต่ความสวยที่จะได้เห็นทุ่งดอกไม้ท่ามกลางป่าสนก็นับว่าคุ้มค่า ใครเป็นสายลุยหน่อยต้องมาช่วงนี้ละนะ รับประกันว่าสวยฉ่ำอุดมสมบูรณ์มากกว่าฤดูไหนๆ เชื่อว่าคุณต้องประทับใจสุดๆ เลยเชียว

4. เนินมะปราง – พิษณุโลก

ห่างจากตัวจังหวัดพิษณุโลกมาเกือบๆ 70 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของอำเภอเนินมะปราง ซึ่งช่วงหลังๆ มานี้ ที่นี่กำลังได้รับความนิยมจากบรรดาคนรักธรรมชาติและความสงบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา ทั้งที่บ้านมุงซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กับภูเขาหินปูนสวยแปลกตา มีทุ่งหญ้า ถ้ำค้างคาว รวมถึงที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ให้ใช้บริการกัน และที่บ้านรักไทย ซึ่งมีไฮไลท์เป็นต้นไม้รูปหัวใจซึ่งใช้เป็นจุดชมวิวมุมสูงสวยๆ ได้อย่างน่าตื่นตา ซึ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้จะมีทั้งวิวสวยๆ อากาศเย็นสบาย ให้เราได้พักใจท่ามกลางความสงบกัน เป็นอีกพิกัดที่อยากให้ลองปักหมุดไป

5. น้ำตกแสงจันทร์ – อุบลราชธานี

น้ำตกอื่นๆ ที่เราชินตากันนั้น อาจจะสวยด้วยความอลังการใหญ่โตเว่อร์วัง แต่น้ำตกแสงจันทร์นั้นสวยปังเพราะความแปลกของตัวน้ำตกที่ไม่ได้เป็นม่านน้ำกว้างใหญ่ไหลลงมาตามภูเขาแต่อย่างใด หากน้ำตกนี้ไหลเป็นสายลอดลงมาตามช่องหินซึ่งเป็นวงกลม มองดูคล้ายแสงจันทร์หรือแสงสปอร์ตไลท์ที่สาดส่องลงมา หลายคนจึงเรียกที่นี่ว่าน้ำตกลงรูตามหน้าตาที่มองเห็น ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในที่เที่ยว unseen ของเมืองไทยด้วยนะ หน้าฝนแบบนี้ยิ่งสวยเพราะน้ำเยอะจ้า ต้องรีบมาแล้ว

6. แม่กำปอง – เชียงใหม่

หากมีเวลาก็จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ แล้วเช่ารถขับไปเที่ยวแม่กำปองกันดีกว่า แม่กำปองเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะอากาศดี มีความเย็นสบายไปเที่ยวกันได้ทั้งปี ทีเด็ดคือที่พักแม่กำปองที่เป็นแบบโฮมสเตย์มีให้เลือกหลากหลาย ราคาไม่แพง ที่สำคัญคือรายล้อมไปด้วยความเป็นธรรมชาติ หากใครมีเวลาอยากจะให้ลอง เข้าไปเลือกที่พักแม่กำปองใน Traveloka เพราะไม่ใช่แค่มีที่พักให้เลือกมากมาย แต่ยังมีโปรโมชั่นลดราคาบ่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงไฮซีซั่นเท่านั้น ไฮไลท์ของแม่กำปองนอกเหนือจากที่พักบรรยากาศดีแล้ว ยังมีร้านกาแฟ ลำธารธรรมชาติไหลผ่านหมู่บ้าน และอากาศหนาวเย็นในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่ไม่อยากให้คุณพลาดเลยจริงๆ

7. บ้านป่าบงเปียง – เชียงใหม่

เมื่อนึกถึงที่เที่ยวหน้าฝนทีไร จะไม่นึกถึงนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียงก็คงเหมือนขาดอะไรไปซักอย่างเลยเชียวละ เพราะที่นี่นับว่าเป็นนาขั้นบันไดผืนใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งในช่วงฤดูฝนนั้นจะเหมือนมีพรมสีเขียวผืนใหญ่ปูคลุมทิวเขาแถวนี้แบบสุดสายตา บอกเลยว่าเป็นวิวที่สวยจับใจ ซึ่งหากมาในฤดูอื่นรับรองว่าไม่ได้เห็นแบบนี้แน่นอนจ้า ช่วงฤดูฝนนี่ละ ไฮซีซั่นที่แท้จริง

8. ภูป่าเปาะ – เลย

คิดถึงฟูจิแต่ยังไปไม่ได้ ก็แนะนำให้ไปดูความสวยของฟูจิเมืองไทยกันก่อนได้เลยจ้า แล้วยิ่งถ้าไปในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ก็จะได้หินวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจีสบายตา แล้วถ้าเป็นตอนเช้าก็ยังเป็นช่วงที่มีลุ้นได้เห็นหมอกขาวๆ ลอยเหนือยอดเขากันด้วยนะ ใครเป็นคนแฮปปี้กับธรรมชาติที่สมบูรณ์มากๆ ละก็ มาชมความสวยของฟูจิเมืองไทยอย่างภูหอกันได้จากบนภูป่าเปาะในหน้าฝนนี่เลย

9. น้ำตกทีลอซู – ตาก

ทีลอซูนั้นได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศไทย ซึ่งหากอยากได้การเดินทางที่สะดวกสบาย ต้องไปชมกันในช่วงฤดูแล้งเลยจ้า แต่ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ถือเป็นช่วงที่สายลุยจะเข้าไปชมทีลอซูกันได้แบบสนุกสุดๆ เลยนะ ทั้งนั่งรถ ล่องแพ ต่อด้วยการเดินเท้าอีกหน่อย ฟังดูลำบากยากเย็นแต่บอกได้เลยว่าคุ้มนะ เพราะรางวัลตอบแทนคือการที่จะได้ชมความอลังการของทีลอซูแบบเต็มๆ ตา รับรองว่าว้าวกว่าฤดูไหนๆ อย่างแน่นอน

10. อำเภอปัว – น่าน

เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ขึ้นชื่อลือชาว่าสวยสุดๆ ในช่วงฤดูฝน ก็เพราะอำเภอปัวนั้นเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่เต็มไปด้วยผืนนาสีเขียว ภูเขา และต้นไม้ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่จึงเป็นพิกัดที่จะสวยสุดๆ ในช่วงฤดูฝนนี่ละ ไปปัวช่วงนี้คุณจะได้แฮปปี้กับธรรมชาติแน่นๆ แบบรอบด้าน ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะได้พักสายตากับความเขียวขจี ได้สูดอากาศดีๆ ที่แสนจะสดชื่นจนจุใจ ใครอยากผ่อนคลายพักใจ ต้องไปปัวช่วงนี้เลย

11. สะพานซูตองเป้ – แม่ฮ่องสอน

สะพานซูตองเป้นั้นได้ชื่อว่าเป็นสะพานแห่งความศรัทธา เพราะเป็นสะพานไม้ไผ่ซึ่งสร้างขึ้นมาจากสองมือของชาวบ้านกุงไม้สักและบรรดาพระภิกษุ เพื่อใช้ย่นระยะทางในการเดินทางจากบ้านกุงไม้สักไปยังสวนธรรมภูสมะ ด้วยการตัดผ่านที่นาของชาวบ้านแบบไม่สร้างความเสียหาย หน้าฝนแบบนี้เราจึงจะได้เห็นภาพสะพานไม้ไผ่ทอดตัวยาวผ่านนาข้าวเขียวขจีที่ให้บรรยากาศสดชื่นแบบสุดๆ ไปเลยละ รับรองว่ามาแล้วต้องติดใจ

12. ภูเขาหญ้า – ระนอง

นอกจากเมืองระนองจะเป็นแหล่งน้ำแร่ชั้นดีที่ไปแล้วต้องแวะแช่กันให้ได้แล้วนะ เมืองนี้ยังมีที่เที่ยว unseen อย่างภูเขาหญ้า ซึ่งเป็นเนินเขาเล็กๆ เรียงตัวเป็นกลุ่มก้อนโดยที่มีเพียงแค่หญ้าปกคลุมโดยไม่มีต้นไม้ใหญ่ แลดูคล้ายถูกปกคลุมด้วยพรมสีเขียวผืนใหญ่ ซึ่งในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาวทุ่งหญ้าบริเวณนี้จะเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองทองดูสวยไปอีกแบบเลยละ แต่ถ้าอยากเห็นวิวเขียวๆ สดชื่นตาก็ต้องมาช่วงหน้าฝนแบบนี้เท่านั้นจ้า ช่วงนี้แดดไม่แรงด้วยนะ รีบมาเลย

13. ล่องแพ – กาญจนบุรี

ฤดูกาลนี้ เป็นอีกหนึ่งช่วงที่เหมาะจะไปใช้ชีวิตช้าๆ นอนสบายๆ เอนกายฟังเสียงสายฝนพรำ สูดอากาศบริสุทธิ์เย็นฉ่ำให้ชื่นใจ ยิ่งถ้าได้ไปนอนบนแพมองต้นไม้เขียวๆ รอบกาย มองสายน้ำไหลเอื่อยๆ ก็จะเป็นการชาร์จพลังใจได้ดีแบบสุดๆ เลยละ และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เราอยากชวนคุณไปล่องแพเมืองกาญจน์กันในช่วงฤดูฝนฉ่ำแบบนี้ดูซักครั้งนะ ติดหนังสือไปซักเล่ม หาเพลงเพราะๆ ไปเปิดฟังสบายๆ เผลอๆ เพลินจนไม่อยากกลับบ้านเลยเชียวละ

14. เขาค้อ – เพชรบูรณ์

ใครๆ ก็รู้ว่าเขาค้อคือหนึ่งในพิกัดสุดพีคของการเดินทางท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาว เพราะชาวไทยอย่างเราๆ ก็ล้วนแล้วแต่อยากจะสัมผัสกับอากาศเย็นๆ ที่มีให้เจอกันน้อยนิดในแต่ละปี และถ้าไม่อยากเบียดเสียดผู้คนมากมายในฤดูหนาว เราแนะนำว่าเขาค้อช่วงหน้าฝนก็เริ่ดไม่แพ้ใคร อากาศเย็นสบายไม่ถึงกับหนาวจัด ธรรมชาติรอบด้านก็อุดมสมบูรณ์เขียวขจีเต็มที่สุดๆ แถมยังจะได้เห็นทะเลหมอกตอนเช้าได้บ่อยกว่าหน้าหนาวด้วยนะ ดีจะตาย

15 ทุ่งดอกกระเจียว – ชัยภูมิ

นับว่าเป็นแลนด์มาร์คเด็ดยืนหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิที่ในหนึ่งปีจะมีโอกาสได้เห็นกันแค่ในช่วงหน้าฝนเท่านั้น กับทุ่งดอกกระเจียวที่จะบานชูช่ออวดสีชมพูสดใสกินพื้นที่กว้างกลางป่า ทั้งที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามและอุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งทั้งสองแห่งนี้ก็มีภูมิประเทศที่สวยแตกต่างกันไป แต่บอกได้ว่าแจ่มทั้งคู่เลยจ้า แนะนำให้ไปถึงช่วงเช้าหน่อยนะ จะได้เจอกับหมอกขาวๆ อากาศเย็นสบาย แดดก็ไม่แรงมากด้วยนะ รับรองว่าจะติดใจ

16. ภูลังกา – พะเยา

เมืองเล็กๆ อย่างพะเยา อาจจะเป็นเมืองรองนอกสายตาสำหรับใครต่อใคร แต่จริงๆ แล้วเมืองนี้ซ่อนที่เที่ยวเด็ดๆ เอาไว้อีกหลายแห่งเลยเชียวละ หนึ่งในนั้นก็คือภูลังกา ซึ่งเป็นพิกัดที่สวยแปลกตาด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกๆ สลับกับทุ่งนาสีเขียวผืนใหญ่ ซึ่งในช่วงหน้าฝนจะสวยฉ่ำชุ่มน้ำเต็มที่ แถมยังมีหมอกขาวๆ ลอยอ้อยอิ่งให้เห็นกันในช่วงเช้าอีกจ้า มาช่วงนี้เชื่อว่าฟินชัวร์

17. หมู่บ้านสะปัน – น่าน

อีกหนึ่งหมู่บ้านเล็กๆ บรรยากาศแสนสบาย ที่เหมาะจะเป็นพิกัดในการไปพักผ่อนพักใจได้เป็นอย่างดี กับการเป็นหมู่บ้านน้อยๆ ในอ้อมกอดขุนเขาที่สูงใหญ่ ในหมู่บ้านเต็มไปด้วยนาข้าวเขียวขจี มีแม่น้ำไหลผ่าน มีสะพานเล็กๆ ทอดตัวข้ามลำน้ำอีกที ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ 360 องศารอบด้านจะยิ่งฉ่ำชุ่มชื่นตาชื่นใจ บอกเลยว่าไปสูดอากาศดีๆ ปั่นจักรยานเล่นเพลินๆ นอนพักสบายๆ ซักคืนสองคืนนะ กลับมาจะเฟรชมาก รับรอง!

18. บ้านแม่ลาน้อย – แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีพิกัดสวยๆ ให้เที่ยวกันหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จักดีอย่างปางอุ๋งหรือปาย และอีกหนึ่งแห่งที่อยากฝากไว้ในอ้อมใจของคนชอบความสโลว์ไลฟ์ทั้งหลายก็คือแม่ลาน้อยนี่ละ เพราะที่นี่คือหมู่บ้านเกษตรกรรมอันแสนจะเรียบง่าย ตั้งอยู่ในวงล้อมของทิวเขาสลับซับซ้อน มีโฮมสเตย์ให้ใช้บริการ เป็นพิกัดที่เหมาะจะมานอนฟังเสียงฝนพรำมองต้นไม้และพืชไร่เขียวขจี อากาศเย็นสบายแถมบรรยากาศดีขนาดนี้ ได้มาซักทีจะติดใจ

20. เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา – เชียงใหม่

หลายคนอาจจะรู้จักที่นี่ในชื่ออ่างกาหลวง ซึ่งเป็นผืนป่าดิบเขาที่ให้บรรยากาศคล้ายกับเราได้ย้อนเข้าไปในยุคดึกดำบรรพ์ ที่สำคัญคือบริเวณนี้เป็นจุดที่มีระบบนิเวศน์ไม่เหมือนที่ไหนในประเทศไทย ด้วยความชื้น อากาศที่หนาวเย็นตลอดปี และสภาพแวดล้อมบนที่สูงอย่างยอดดอยอินทนนท์ ทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์แปลกตาจากบรรดาพืชพรรณที่หาชมได้ยากจากที่อื่น ยิ่งช่วงหน้าฝนที่นี่จะชุ่มฉ่ำเขียวชอุ่มเย็นสบาย ตอนเช้ามีหมอกลอยคลุมผืนป่าจางๆ ให้ความขลังไปอีกแบบ ใครชอบธรรมชาติและต้นไม้ หน้าฝนนี้พลาดที่นี่ไม่ได้เลย

21. น้ำตกปิตุ๊โกร – ตาก

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในจังหวัดตาก ทำให้ที่นี่มีน้ำตกเจ๋งๆ ให้สัมผัสกันอยู่หลากหลาย นอกจากน้ำตกทีลอซูอันยิ่งใหญ่แล้ว ก็ต้องยกให้น้ำตกปิตุ๊โกรแห่งนี้นี่ละที่สายธรรมชาติควรต้องมา เพราะนี่คือน้ำตกที่มีหน้าตาเป็นรูปหัวใจด้วยสายน้ำขาวกลางผืนป่า เนื่องจากสายน้ำสองสายไหลมาบรรจบกันแบบพอดิบพอดี แถมที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่อยู่สูงที่สุดของประเทศไทยบนความสูงกว่า 500 เมตร ใครเป็นสายลุยบอกเลยว่าที่นี่เด็ดมาก เข้ามาชมได้ยากแต่คุ้มจริง

22. หุบป่าตาด – อุทัยธานี

อุทัยธานี คือจังหวัดเล็กๆ อันแสนสงบที่มีวิถีชุมชนอันน่ารัก และเป็นเมืองรองที่หลายคนมักจะมองข้ามไป แต่สำหรับคนชอบความเรียบง่ายในบรรยากาศท้องถิ่น เชื่อว่าอุทัยธานีจะทำให้คุณฟินไม่น้อยเชียวละ และถ้าคุณเป็นคนรักต้นไม้บอกได้เลยว่าต้องไปเช็คอินที่หุบป่าตาด เพราะนี่คือเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพืชพรรณโบราณแลดูแปลกตา มีทั้งช่วงที่เดินผ่านกลางป่าและลอดเข้าถ้ำด้วยนะ สำหรับช่วงหน้าฝนจะเป็นช่วงพิเศษที่เรามีโอกาสได้เห็นกิ้งกือมังกรสีชมพูซึ่งจะพบเห็นได้ที่เดียวในโลกคือที่นี่เท่านั้นจ้า สายธรรมชาติต้องมาด่วนๆ แล้ว

22. หุบป่าตาด – อุทัยธานี

สุโขทัยเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ให้บรรยากาศสงบสบาย เรียบง่าย และเหมาะกับคนที่รักการใช้ชีวิตท่ามกลางวิถีท้องถิ่นที่น่ารัก และถ้าอยากหาที่พักใจในจังหวัดนี้ แนะนำให้มาที่บ้านนาต้นจั่นนี่เลยจ้า เพราะคุณจะได้ใช้ชีวิตสุดชิลล์ท่ามกลางธรรมชาติและนาข้าวเขียวขจี นอนพักโฮมสเตย์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนไปนอนบ้านญาติ ได้กินอาหารท้องถิ่นรสชาติอร่อย ได้ปั่นจักรยานสูดอากาศดีๆ และยังมีกิจกรรมให้ทำกันอีกมากมาย เป็นพิกัดที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่เด็ดอย่าบอกใครเลยเชียว

23. น้ำตกเอราวัณ – กาญจนบุรี

ถ้าจะมองหาน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของประเทศไทย ก็ต้องมีชื่อน้ำตกเอราวัณติดเข้าไปในโผด้วยอย่างแน่นอน น้ำตกนี้มีทั้งหมด 7 ชั้น มีเส้นทางน้ำรวมความยาวทั้งหมด 1,500 เมตร แต่ละชั้นก็มีความโดดเด่นที่ความสวยและหน้าตาแตกต่างกันไป ไฮไลท์ของที่นี่คือการเป็นน้ำตกที่มีสีฟ้าใส เนื่องจากบริเวณนี้เป็นภูเขาหินปูนซึ่งเกิดจากการทับถมกันของเปลือกสัตว์ทะเลและซากปะการังในยุคก่อน นี่จึงเป็นน้ำตกสวยที่เหมือนได้ลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำกลางป่า บอกเลยว่าดี!

24. เมืองคอง – เชียงใหม่

ขอชี้เป้าอีกพิกัดให้สายรักธรรมชาติได้เตรียมตัวปักหมุดกันเอาไว้ กับพื้นที่ซึ่งรวมหมู่บ้านเล็กๆ 6 หมู่บ้าน ซึ่งมีประชากรโดยรวมค่อนข้างหลากหลาย ทั้งชาวไทยพื้นเมืองและชนกลุ่มน้อยซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าต่างๆ อาศัยอยู่รวมกัน ท่ามกลางธรรมชาติที่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันบริสุทธิ์สมบูรณ์ กับพื้นที่เกษตรกรรมอันเขียวชอุ่มซึ่งรายล้อมด้วยขุนเขา หน้าฝนยังมีหมอกลอยเบาๆ ให้ได้เห็นกันเป็นประจำด้วยจ้า มาเมืองคองแล้วจะรู้สึกเหมือนเวลาเดินช้ากว่าที่เป็นนะ ใครรักความสโลว์ไลฟ์ก็จัดไป

25. ภูทับเบิก – เพชรบูรณ์

เมื่อพูดถึงพิกัดเที่ยวหน้าฝนแบบนี้ จะไม่มีชื่อภูทับเบิกอยู่ในลิสต์ก็คงไม่ได้ เพราะที่นี่ในช่วงฤดูฝนจะเต็มไปด้วยป่าไม้และพื้นที่การเกษตรสีเขียวขจี แถมยังมีหมอกขาวๆ ลอยให้ดูในช่วงเช้าอยู่บ่อยๆ กันด้วยจ้า ที่เริ่ดคือภูทับเบิกในช่วงหน้าฝนนั้นผู้คนหนาแน่นน้อยกว่าในช่วงหน้าหนาวด้วยนะ การมาเที่ยวในหน้าฝนคุณจึงสามารถเสพธรรมชาติและบรรยากาศรอบตัวได้เต็มที่ แต่แนะนำว่าฤดูนี้อาจจะไม่เหมาะกับการกางเต็นท์นอนเท่าไหร่ ลองหาบ้านพักที่กันแดดกันฝนได้แบบชิลล์ๆ ดีกว่า รับรองว่าเพลิน

26. ไร่ชาฉุยฟง – เชียงราย

หนึ่งในไร่ชาที่หลายคนติดอกติดใจ และอีกหลายคนอยากไปเช็คอินซักครั้ง ก็คงต้องยกให้กับไร่ชาฉุยฟงในอำเภอแม่จันนี่ละ เพราะที่นี่เดินทางเข้าถึงก็ง่าย แถมยังมีไฮไลท์เป็นจุดชมวิวหน้าตาเก๋ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปเช็คอินกัน ปิดท้ายด้วยการนั่งชิลล์กินของอร่อยในคาเฟ่สวยที่เน้นการใช้ใบชามาเป็นส่วนประกอบหลักในเกือบทุกเมนู ช่วงหน้าฝนแบบนี้ ไร่ชาจะเป็นสีเขียวเข้มเต็มที่ชวนให้สดชื่นใจสบายตา ถ้ามาเช้าๆ บางครั้งยังอาจจะได้เห็นหมอกขาวๆ ลอยให้ชมกันด้วยจ้า บอกเลยว่าน่าประทับใจ

27. น้ำตกหมันแดง – พิษณุโลก

น้ำตกหมันแดงเป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และมีจำนวนชั้นของน้ำตกทั้งหมด 32 ชั้น แต่ทางอุทยานฯ เปิดให้เข้าชมกันได้แค่ชั้น 1 – 9 เท่านั้น การเข้าไปชมน้ำตกนี้ต้องใช้การเดินบุกป่าฝ่าดงระยะทางราวๆ 3.5 กิโลเมตร ในเส้นทางที่บางช่วงจะค่อนข้างลื่นและชัน จึงต้องมีการติดต่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทางเข้าไปจะปลอดภัยกว่า ไฮไลท์ช่วงหน้าฝนของที่นี่นอกจากจะมีน้ำเยอะสวยสะใจแล้วนะ ยังมีดงดอกลิ้นมังกรสีชมพูให้ดูเป็นฉากหน้าชนิดที่หาดูจากน้ำตกอื่นไม่ได้ ใครเป็นสายถ่ายรูปธรรมชาติปักหมุดไว้เลย แจ่มจริง

28. ภูทอก – เลย

ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เชื่อเลยว่าต้องมีหลายคนอยากปักหมุดไปนอนชิลล์ในบ้านไม้สวยๆ ริมแม่น้ำโขงของเชียงคานกันบ้างละน่า แล้วถ้ามีแพลนไปเชียงคานเมื่อไหร่ก็มั่นใจว่าทุกคนย่อมไม่พลาดการไปชมวิวสวยๆ บนภูทอกกันแน่ๆ ยิ่งถ้าได้มาช่วงหน้าฝนแบบนี้ ยิ่งมีโอกาสได้เห็นวิวทะเลหมอกในตอนเช้าแบบจัดหนักจัดเต็มกันมากกว่าช่วงหน้าหนาวด้วยนะ แถมจำนวนผู้คนก็ยังน้อยกว่า ในขณะที่อากาศก็เย็นสบายไม่ด้อยไปกว่ากันเลยละ เผลอๆ คุณอาจจะชอบมากกว่าหน้าหนาวก็ได้นะ ใครจะรู้?

29. น้ำตกถ้ำพระ – บึงกาฬ

บึงกาฬคือจังหวัดน้องใหม่ของเมืองไทยที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจแน่นๆ กันไปเลยจ้า หนึ่งในนั้นที่อยากชวนไปเช็คอินกันก็คือน้ำตกถ้ำพระนี่ละ เพราะนี่คือน้ำตกที่มีโลเกชั่นแปลกตากับการมีสายน้ำไหลผ่านลานหินกว้างใหญ่ บางช่วงมีแอ่งน้ำใสๆ ให้ลงไปเล่นกันได้ด้วยนะ ที่เด็ดคือน้ำตกนี้มีจุดที่เรียกว่าเป็นสไลเดอร์หินธรรมชาติให้เราได้ลื่นปรื๊ดไปตามสายน้ำกันแบบสุดมันด้วยจ้า หน้าฝนแบบนี้คือดีมากเพราะจะมีน้ำให้เล่นเยอะกว่าช่วงอื่นเลยนะ รับรองว่าสะใจ

30. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง – สุพรรณบุรี

นี่คืออ่างเก็บน้ำขนาดไม่ใหญ่ในเมืองสุพรรณบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่กี่ร้อยกิโลเมตรเท่านั้น แต่ความสวยของธรรมชาติถึงขั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นปางอุ๋งแห่งเมืองสุพรรณฯ กันเลยจ้า ด้วยความที่เป็นอ่างเก็บน้ำกว้างท่ามกลางวงล้อมของทิวเขา ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามากางเต็นท์นอนชิลล์ชมวิวกันได้สบายๆ หรือจะเลือกไปนอนในแพกลางน้ำสัมผัสธรรมชาติกันแบบจุกๆ แน่นๆ ไปเลยก็ได้นะ ไม่ต้องไปไกลจากกรุงเทพฯ ก็เสพทิวทัศน์แจ่มๆ ฟินๆ ได้จ้า บอกเลยว่าดี!

และทั้งหมดนี้คือพิกัดแจ่มๆ ที่อยากชวนให้คุณไปสัมผัสกันในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ก็ช่วงฤดูกาลที่หลายคนบอกว่าเป็นโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวนี่ละ กลับเป็นช่วงที่พิกัดเที่ยวหลายแห่งจะสวยมากที่สุดของปี นอกจากจะได้เจอกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ชื่นตาชื่นใจแล้วนะ การเที่ยวหน้าฝนยังให้ฟีลสบายๆ แบบไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คนอีกมากมายล้านแปดเหมือนช่วงไฮซีซั่นด้วยจ้า เชื่อว่าต้องมีหลายคนติดใจอย่างแน่นอน

You may also like...