30 ที่เที่ยวน่าน – พะเยา

30 ที่เที่ยวน่าน – พะเยา ปักหมุดพิกัดเช่ารถขับเที่ยวแบบ RoadTrip

สำหรับคนรักบรรยากาศสบายๆ สไตล์ต๊ะต่อนยอนที่เนิบๆ ช้าๆ เชื่อว่าต้องแฮปปี้กับเส้นทางเที่ยวจังหวัดน่าน – พะเยา ที่เราเอามาฝากกันคราวนี้ เพราะนี่คือสองจังหวัดสุดสโลว์ไลฟ์ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวสไตล์ Road Trip เว่อร์! เส้นทางขับรถก็ทั้งสวยทั้งมัน แถมยังมีพิกัดคูลๆ ให้แวะกันได้ตลอดเส้นทาง

ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจุดเช็คอินของสองจังหวัดนี้มีที่ไหนกันบ้าง ตามมาเลยจ้า วันนี้เรารวมมาไว้ให้แบบจุกๆ กันแล้วเน้อ ถ้าดูแล้วถูกใจ รีบจองทั้งตั๋วเครื่องบินและบริการรถเช่าเอาไว้เลยจ้า อย่าช้านะ เพราะหนาวๆ แบบนี้คือช่วงพีคเลย ตัดสินใจนาน เดี๋ยวลมหนาวผ่านไป จะเสียดายเด้อ

จองตั๋วเครื่องบินไปน่าน กับTraveloka ได้ที่นี่เลย > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Nan.NNT

30 ที่เที่ยวน่าน – พะเยา

น่าน

1. วัดภูมินทร์

แลนด์มาร์คหลักที่ไม่ได้แวะก็เหมือนยังมาไม่ถึงเมืองน่านอย่างแท้ทรู นี่คือวัดเก่าแก่กลางตัวเมืองซึ่งโดดเด่นตรงที่มีองค์พระประธานสี่ด้านประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ทรงจตุรมุขที่หาดูได้ยากในเมืองไทย และไฮไลท์ของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นจิตรกรรมฝาผนังเก๋ๆ ที่ได้รับฉายาว่าเป็นภาพกระซิบรักบรรลือโลก หรือภาพปู่ม่าน – ย่าม่าน ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของเมืองน่านไปแล้วจ้า มาน่านแล้วไม่มาวัดนี้คือพลาดเด้อ อย่าลืม

2. วัดมิ่งเมือง

อดีตวัดร้างเก่าแก่ ที่ทุกวันนี้กลายเป็นสถานที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน ปัจจุบันวัดนี้ได้รับการบูรณะจนกลายเป็นวัดสวยที่โดดเด่นด้วยสีขาวสะอาดและจิตรกรรมปูนปั้นสุดวิจิตรบรรจง เรียกว่าถ้าชอบศิลปะละเอียดยิบแบบไทยล้านนา มาดูที่นี่คือคุ้มมาก เพราะแต่ละจุดมีดีเทลยุบยิบให้ดูจนตาลาย แถมมาที่เดียวยังได้ทั้งไหว้พระและสักการะศาลหลักเมืองด้วย ดีงาม!

3. วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร

ยังคงวนเวียนอยู่ในหมวดวัดเก่าแก่ที่เดินทางง่ายในตัวเมืองน่าน วัดนี้อยู่ใกล้กันกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองน่านเลยทีเดียว ไฮไลท์อยู่ที่องค์เจดีย์ซึ่งมีรูปแบบที่ได้รับอิทธิพลมาจากทางสุโขทัย บริเวณฐานเจดีย์มีรูปปูนปั้นช้างครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ในขณะที่วิหารหลวงของวัดนี้นั้นสวยงามด้วยศิลปะสไตล์ล้านนา มาเมืองน่านเมื่อไหร่ อย่าลืมขับรถมาไหว้พระที่นี่กันด้วยน้า เชื่อว่าสายบุญต้องถูกใจชัวร์

4. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน

พิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในอาคารโบราณแสนสวย ซึ่งเคยเป็นคุ้มของอดีตเจ้าผู้ครองนครน่านในยุคโบราณ ด้านในมีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ประจำพระองค์ของอดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน และยังมีการจัดแสดงภาพถ่าย อาวุธ เงิน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ของเมืองน่านอีกมากมาย โดยมีไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เป็นงาช้างดำ ซึ่งนับเป็นของสำคัญคู่เมืองน่านมาตั้งแต่ยุคอดีต ปิดท้ายคือต้องไปแชะรูปสวยๆ กันที่ซุ้มลั่นทมบริเวณด้านนอกตัวพิพิธภัณฑ์ด้วยนะ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงเลยเชียว

5. วัดพระธาตุเขาน้อย

วัดสวยบนยอดดอยสูงอย่างเขาน้อย เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองน่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2030 รวมๆ ก็ 500 กว่าปีแล้วนะ เชื่อกันว่าด้านในของวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วย ที่นี่เป็นวัดสวยแปลกตาที่มาในรูปแบบศิลปะล้านนาผสมพม่า นอกจากมากราบองค์พระธาตุแล้ว ยังมีไฮไลท์เป็นลานกว้างประดิษฐานองค์พระพุทธรูปปางประทานพร ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดชมวิวมุมสูงของเมืองน่านได้แบบชิลล์ๆ โดยเฉพาะในตอนเช้าและค่ำ อยากชมวิวแต่ไม่อยากเดินทางไกล ไปน่านต้องปักหมุดวัดนี้ไว้เลย

6. วัดพระธาตุแช่แห้ง

นับเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองน่าน ที่อยู่มานานกว่า 600 ปี ภายในองค์เจดีย์ความสูง 55.5 เมตรของวัดนี้นั้น เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากกรุงสุโขทัย โดยที่นี่นับเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ วัดนี้มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่สายบุญต้องแฮปปี้ เส้นทางมาที่นี่ก็แสนจะง่าย ขับรถมาจากในตัวเมืองแค่ราวๆ 2 กิโลเมตรเท่านั้น สะดวกมาก ไม่อยากให้พลาดกันเด้อ

7. ถนนคนเดินน่าน

หลายคนรู้จักถนนเส้นนี้ในชื่อกาดข่วงเมืองน่าน เป็นถนนคนเดินน่ารักๆ ที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ บริเวณใกล้กับวัดภูมินทร์ในตัวเมืองนั่นละ ถนนเส้นนี้มีความยาวแค่ประมาณราวๆ 500 เมตรเท่านั้น เหมาะกับการเดินกินเดินช้อปแบบสบายๆ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่นกินง่าย และผ้าทอไทยๆ สไตล์พื้นเมืองน่านที่วางขายกันในหลากหลายรูปแบบ ใครมองหาของฝากของที่ระลึกแฮนด์เมดน่ารักๆ ปักหมุดที่นี่ได้เลย

8. ถนนลอยฟ้า

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คยอดฮิตของเมืองน่านที่ต้องมาเช็คอินกันแทบทุกคน โดยเฉพาะเมื่อเลือกจะขับรถเที่ยวในจังหวัดนี้ นั่นก็คือเส้นทางถนนบนเขาสูงที่เรียกกันว่าถนนลอยฟ้า ซึ่งจริงๆ แล้วมีสองพิกัดให้เลือกแวะแชะรูปเป็นที่ระลึกกันนะ นั่นคือเส้นทาง ปัว – บ่อเกลือ และ สันติสุข – บ่อเกลือ ซึ่งแต่ละเส้นก็มีไฮไลท์แตกต่างกันไป แต่ยังไงๆ ก็เช่ารถขับเที่ยวอยู่แล้วนี่นา เส้นทางก็ไม่ได้ห่างกันมากมาย ไปมันทั้งสองที่นั่นละ เชื่อเรา

9. ดอยเสมอดาว

สำหรับคนที่อยากสัมผัสประสบการณ์นอนเต็นท์บนยอดดอย แต่ไม่อยากเดินทางปีนป่ายให้ลำบากลำบน ดอยเสมอดาวนี่ละเริ่ดสุด เพราะขับรถขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์ด้านบนได้แบบชิลล์ๆ ถนนหนทางลาดยางอย่างดี จอดรถปุ๊บก็ถึงลานกางเต็นท์ปั๊บ ค่ำๆ ก็นอนดูดาวเต็มท้องฟ้า ตื่นขึ้นมาก็อาจจะได้เห็นทะเลหมอกสวยๆ ง่ายมาก ดีมาก ไม่อยากให้พลาดเลย

10. บ้านสะปัน

ออกเดินทางจากตัวเมืองไปสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติกันที่หมู่บ้านสะปันกันบ้าง ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ สุดสงบเงียบที่ตั้งอยู่ท่ามกลางวงล้อมของขุนเขา ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังเป็นเกษตรกรที่ใช้ชีวิตในรูปแบบดั้งเดิม ในช่วงหน้าฝนหมู่บ้านนี้จึงสวยด้วยสีเขียวของทุ่งนาแบบเต็มเอี้ยดในทุกพื้นที่ ที่ชิลล์สุดคือมีแม่น้ำสายเล็กๆ ไหลผ่านไปอีก ใครชอบปั่นจักรยาน ชอบเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ขับรถไปที่นี่เลยจ้า รับรองว่าไม่ผิดหวัง

11. บ่อเกลือ

จากตัวเมืองน่านมาประมาณ 80 กิโลเมตร จะถึงอำเภอบ่อเกลือ อีกหนึ่งอำเภอที่นับเป็นซิกเนเจอร์หนึ่งของเมืองน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่การผลิตเกลือสินเธาว์เก่าแก่ที่ตกทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ความโดดเด่นอยู่ที่การสืบทอดกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม ซึ่งยังมีให้เราเห็นอยู่จนถึงปัจจุบัน และเป็นวิธีการที่หาดูได้ยากขึ้นทุกที นอกจากมาดูการผลิตเกลือ ที่นี่ยังมีสปาเกลือให้ได้ลองใช้บริการ รวมถึงมีไข่ต้มเกลือสูตรเด็ดให้ชิมกันด้วยเด้อ แวะมาเหอะ เราว่าสนุกดี

12. จุดชมวิวภูคา 1715

เป็นจุดชมวิวบนถนนเส้นทางสู่ดอยภูคา ซึ่งเป็นเส้นทางจากตัวเมืองน่านไปที่อำเภอบ่อเกลือ และนับเป็นพิกัดยอดฮิตที่นักเดินทางซึ่งใช้เส้นทางนี้เกือบทุกคนต้องแวะแชะแวะชมวิวปังๆ ของทิวเขาเมืองน่านกัน แต่ถ้าจะมาให้เห็นความพีคแบบเต็มสิบไม่หักของจุดชมวิวนี้ ก็ต้องมาตอนเช้าเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นเด้อ ในวันที่อากาศเป็นใจ ยังได้ลุ้นดูทะเลหมอกแบบว้าวๆ กันอีกด้วย กะเวลาให้ดีๆ รับรองแฮปปี้แน่นอน

13. อำเภอปัว

เรียกว่าถ้ามาน่านแล้วไม่ได้มาเห็นวิวชิลล์ๆ ของทุ่งนาและภูเขาในเมืองปัว ก็เหมือนยังสัมผัสถึงอารมณ์ความเป็นน่านแบบแท้ๆ ได้อย่างไม่เต็มที่ อำเภอปัวเป็นที่รู้จักเพราะบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ซึ่งเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้และทุ่งนา จะให้ดีมาหาเวลาขับรถหรือปั่นจักรยานชมวิวชิลล์ๆ หรือจิบกาแฟในร้านสไตล์ท้องถิ่นแบบสบายๆ มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ลองมาใช้เวลาเนิบๆ ช้าๆ ที่นี่ดู เราว่าน่าจะถูกใจหลายคนอยู่ไม่น้อยเชียวละ

14. วังศิลาแลง

หนึ่งแลนด์มาร์คยอดฮิตในอำเภอปัวที่มาแล้วควรต้องแวะ ก็คือวังศิลาแลง ที่หลายคนตั้งชื่อเล่นให้เป็นแกรนด์ แคนยอน ของเมืองปัว แม้จะต้องป่ายปีนออกแรงกันนิดหน่อย แต่ก็คุ้มค่าเมื่อได้มาเห็นวิวผาหินที่สลับซับซ้อนโดยมีธารน้ำไหลผ่านตรงกลาง อยากเห็นน้ำแรงๆ ก็ต้องมาหน้าฝนนะ แต่อาจจะลงไปลุยกันได้ยากหน่อย ถ้าอยากเห็นน้ำไหลเอื่อยๆ เบาๆ สบายๆ ต้องปักหมุดไปช่วงหน้าแล้งเด้อ

15. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

ออกแรงไปแล้วก็ต้องมองหาของกินใส่ท้องกันหน่อยดีกว่า ร้านนึงที่มาเมืองปัวแล้วควรต้องได้แวะชิมเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารเหนือท้องถิ่นทั่วไป ก็คงต้องยกให้กับเมนูพิซซ่าและสารพัดเมนูเด็ดจากเห็ดที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ซึ่งที่นี่เริ่มจากการเป็นฟาร์มเพาะเห็ดหลากหลายสายพันธุ์เพื่อจำหน่าย และขยายกิจการมาทำร้านอาหารที่มีสารพัดเมนูจานเด็ดซึ่งมีเห็ดเป็นวัตถุดิบหลัก ถือว่าได้มาแวะพักกับวิวสบายๆ พร้อมหาอะไรอร่อยๆ ใส่ท้องกันในแม็ทช์เดียวไปเลย

16. วัดศรีมงคล (วัดก๋ง)

วัดนี้ตั้งอยู่ในเขตอำเภอท่าวังผา เป็นวัดเก่าแก่อีกหนึ่งแห่งของเมืองน่านที่มีอายุเกือบสองร้อยปี วัดนี้มาในรูปแบบการตกแต่งสไตล์ไทยล้านนา มีเฮือนมะเก่าซึ่งเป็นเรือนกระท่อมไม้แบบโบราณ ที่ด้านในมีข้าวของเครื่องใช้ในยุคเก่าให้ได้เข้าไปชมกัน ไฮไลท์ที่สายถ่ายรูปน่าจะแฮปปี้อยู่ที่บริเวณลานชมวิวด้านในวัด ซึ่งจะเห็นแบ็คกราวนด์ด้านล่างเป็นทุ่งนาเขียวขจี แล้วยังมีวิวดอยภูคา และสะพานไม้ไผ่ฮักนาน่าน ซึ่งสามารถเดินผ่านทางเชื่อมจากวัดเข้าไปชมได้ ปิดท้ายด้วยร้านกาแฟในรูปแบบบ้านเรือนไทยสุดชิลล์ มาที่นี่ได้ทั้งไหว้พระและชมวิวในเวลาเดียวกันเลย

พะเยา

17. ภูลังกา

จากเมืองน่าน ข้ามฟากมายังจังหวัดพะเยาที่อยู่ติดกัน และหนึ่งในพิกัดทางผ่านที่บอกเลยว่าไม่แวะไม่ได้ ก็คงต้องยกให้การแวะมาชมวิวที่ภูลังกา จะให้ดีควรหาเวลามานอนค้างกันก่อนซักคืน เพื่อที่จะได้ตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกท่ามกลางภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาซึ่งถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ จะให้ดี แวะหากาแฟร้อนๆ นั่งจิบ แกล้มวิวแจ่มๆ ในตอนเช้าของที่นี่ รับรองว่าดีแบบเต็มสิบไม่หักเลยละ คอนเฟิร์ม

18. กว๊านพะเยา

ของดีเมืองพะเยาที่ถือว่ายืนหนึ่งในเรื่องของการเป็นแลนด์มาร์คหลักซึ่งนักท่องเที่ยวต้องปักหมุดเอาไว้ ก็คงหนีไม่พ้นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเมืองไทย และใหญ่ที่สุดในภาคเหนือแห่งนี้ ความกว้างใหญ่ของกว๊านพะเยาทำเอาเรารู้สึกเหมือนยืนอยู่ริมฝั่งทะเลแบบจริงจังเลยละ แถมยังมีแบ็คกราวนด์ด้านหลังเป็นทิวเขาสูงใหญ่ มาเดินเล่นก็ได้ มาออกกำลังกายก็ดี สวยขนาดนี้ไม่ต้องแปลกใจเลยนะว่าทำไมต้องมา!

19. วัดติโลกอาราม

เรียกได้ว่าเป็นพิกัด unseen แบบสุดๆ เชียวละ เพราะเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี ที่ตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา ว่ากันว่าวัดนี้เก่าแก่กว่าตัวกว๊านซะอีกนะ และหลังจากจมอยู่ใต้น้ำมายาวนานเกือบ 70 ปี ก็ปรากฏว่ามีการค้นพบยอดองค์เจดีย์ที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา ทุกวันนี้มีการบูรณะและอัญเชิญองค์พระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้บริเวณนี้เพื่อให้ผู้คนได้แวะลงเรือมากราบสักการะกัน ไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ในช่วงวันมาฆบูชา วิสาขบูชา และอาสาฬหบูชา ซึ่งจะมีประเพณีลงเรือพายเพื่อไปเวียนเทียนกลางน้ำรอบเกาะของวัดนี้กัน ถ้าหาเวลามาช่วงนั้นได้ อย่าพลาดเชียว

20. วัดอนาลโย

สำหรับสายบุญที่ชอบไหว้พระและนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย แนะนำให้เลยว่าต้องไปวัดนี้เพราะคุ้มมาก! ด้านในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งองค์พระพุทธรูป องค์เจ้าแม่กวนอิม เจดีย์พุทธคยาจำลอง และรูปจำลองของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย วัดนี้ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัมทำให้ใช้เป็นจุดชมวิวมุมสูงในละแวกนี้ได้อีกด้วยนะ ใครชอบทำบุญไหว้พระ บอกเลยว่าวัดนี้คือคุ้มจริง!

21. วัดนันตาราม

ถ้ามาพะเยา เราอยากชวนให้แวะมาวัดนี้ เพราะมีความสวยแปลกตาที่หาดูได้ยากจากวัดอื่น อย่างวิหารไม้สักที่สร้างขึ้นในศิลปะแบบไทยใหญ่ ตกแต่งด้วยไม้ฉลุเป็นลวดลายอ่อนช้อยงดงาม เรียกว่าสวยอลังการแบบแลเด่นเห็นมาแต่ไกล ด้านในยังมีองค์พระพุทธรูปสไตล์ไทยใหญ่และธรรมาสน์ไม้ที่เก่าแก่งดงามไม่แพ้ตัววิหาร แถมยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ เก็บรวบรวมโบราณวัตถุของวัดนี้เอาไว้ให้ได้เดินชมกันด้วยนะ ใครชอบไหว้พระ รักของโบราณ ผ่านวัดนี้ไปเฉยๆ ไม่ได้แล้วจริงๆ

22. น้ำตกธารสวรรค์

น้ำตกสุดสวยที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลางที่มีชั้นลดหลั่นกันลงมาราวๆ 4 ชั้น ความสูงรวมประมาณสิบกว่าเมตรเท่านั้น โดยแต่ละชั้นจะมีแอ่งน้ำตื้นๆ ที่เหมาะกับการลงเล่นน้ำได้แบบสบายๆ ความโดดเด่นของที่นี่คือมีน้ำสีฟ้าใสแจ๋ว และมีกระแสน้ำที่ไม่รุนแรงมาก ในขณะที่มีความกว้างของตัวน้ำตกถึงเกือบๆ 30 เมตร นี่จึงเป็นสระว่ายน้ำตามธรรมชาติแบบเริ่ดๆ ของเมืองพะเยาที่เราแนะนำว่าสายธรรมชาติควรต้องมา

23. ผาหัวเรือ

นับเป็นพิกัดชมทะเลหมอกอีกหนึ่งแห่งที่น่าสนใจในจังหวัดพะเยา หลายคนรู้จักที่นี่ในอีกหนึ่งชื่อว่าบ่อสิบสอง รอบๆ ด้านเป็นผืนป่าและผาหินน้อยใหญ่ โดยไฮไลท์จะอยู่บริเวณที่เรียกว่าผาหัวเรือ ซึ่งเป็นผาหินสูงยื่นออกไปในอากาศคล้ายหัวเรือ จึงมองเห็นวิวสวยด้านหน้าได้แบบพาโนรามาสะใจ ในช่วงเช้านอกจากจะได้ชมพระอาทิตย์สวยๆ แล้วนะ ในวันที่สภาพอากาศลงตัว ยังมีทะเลหมอกสวยๆ ให้ได้ชมกันด้วยเน้อ ขับรถมาจากตัวเมืองไม่ถึงสิบกิโลเมตร ต่อรถรับส่งของชาวบ้านแล้วเดินเท้ากันอีกนิดก็ถึงแล้วนะ เดินทางไม่ยาก ปักหมุดเลย

24. ดอยหนอก

สำหรับสายลุยชอบความมันในสไตล์แอดเวนเจอร์เดินป่าชมเขา เราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด ดอยหนอกนั้นเป็นเขาหินสูงแปลกตาผุดขึ้นมาอยู่ท่ามกลางผืนป่าเขาสีเขียวทั้งหลาย ดอยนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง ในเขตพรมแดนรอยต่อระหว่างจังหวัดพะเยากับลำปาง โดยเส้นทางพิชิตดอยหนอกนั้นต้องออกเดินขึ้นไปค้างแรมกัน 1 คืนก่อนบนดอยหลวง ระยะทางโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 11 กิโลเมตร และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเดินขึ้นไปเน้อ ใครสนใจแนะนำให้ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานไปก่อน บนยอดดอยหนอกสามารถชมวิวได้ถึง 4 จังหวัดโดยรอบเลยนะ คุ้มจ้ะ ห้ามพลาดเลย

25. พระธาตุจอมทอง

วัดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนยอดดอยจอมทองแห่งนี้ นับเป็นโบราณสถานอีกหนึ่งแห่งที่อยู่คู่กับเมืองพะเยามานาน องค์เจดีย์ที่เชื่อกันว่าด้านในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้นั้น เป็นเจดีย์สีทองความสูงราว 30 เมตร ที่ก่อสร้างในศิลปะคล้ายกับพระธาตุหริภุญชัยในจังหวัดลำพูน นอกจากมาไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว เรายังสามารถใช้วัดนี้เป็นจุดชมวิวมุมสูงของเมืองพะเยาและกว๊านพะเยาได้อย่างชัดเจนด้วยเด้อ ทูอินวันจ้า มาเลย

26. น้ำตกภูซาง

เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูซาง ตัวน้ำตกไซส์กะทัดรัดไม่ได้ใหญ่โตอลังการเหมือนน้ำตกหลายที่ที่เราเคยเห็นกัน แต่ความสำคัญที่อยากชวนให้ปักหมุดมาก็อยู่ตรงที่การเป็นน้ำตกอุ่น ด้วยอุณหภูมิน้ำประมาณ 35 – 36 องศาเซลเซียส และมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี รอบตัวน้ำตกยังเป็นพื้นที่ที่จัดแต่งเป็นสนามหญ้า มีร้านค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใครชอบบรรยากาศชิลล์ๆ สะดวกสบาย ต้องไปแช่น้ำที่นี่เลย

27. อุทยานแห่งชาติแม่ปืม

อีกหนึ่งพิกัดที่อยากชวนให้สายแค้มปิ้งแวะมา เพราะเราว่าที่นี่เหมาะกับการกางเต็นท์มากกก เริ่มจากการเดินทางที่สะดวกสบายและห่างจากตัวเมืองพะเยาไปเพียงแค่ขับรถ 40 นาทีเท่านั้น ตัวลานกางเต็นท์เป็นสนามหญ้ากว้างที่อยู่ข้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีพื้นที่ป่าไม้สีเขียวรายล้อมอยู่รอบด้าน มีแบ็คกราวนด์เป็นภูเขาลูกน้อยๆ อยู่ตรงหน้า ตกเย็นๆ ค่ำๆ ก็นั่งปิกนิกกันได้แบบสบายๆ ตื่นเช้ามาชมหมอกขาวๆ อยู่เหนือสายน้ำ ชิลล์มาก คูลมากก ไม่อยากให้พลาดเลย

28. โครงการหลวงปังค่า

เป็นโครงการหลวงที่ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 640 เมตร โดยรอบพื้นที่โครงการเป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าม้งและเผ่าเย้า ที่นี่เน้นการปลูกพืชผักเมืองหนาวไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรือไม้ประดับหลากหลายชนิด แต่ที่นับเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่คงต้องยกให้กับฟักทองยักษ์ไซส์ใหญ่คุณภาพดี มาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้เดินดูพืชพรรณแล้วนะ ยังจะได้ช้อปสินค้าเกษตรสดๆ มากมาย ปิดท้ายด้วยการมองหางานแฮนด์เมดอย่างผ้าปัก ผ้าทอ หรือเครื่องเงินฝีมือชาวเขาในท้องถิ่นเชื่อว่าจะช้อปกันได้แบบสุดฟินอย่างแน่นอน

29. วัดศรีโคมคำ

เป็นวัดที่เดินทางง่ายเพราะตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยา โดยมีไฮไลท์เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของล้านนา โดยสันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2034 ชาวพะเยาจึงถือว่านี่คือองค์พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกด้วย ถ้ามาถึงเมืองพะเยาแล้วนะ เราว่าไม่ควรพลาดวัดนี้จริงๆ

30. วัดพระธาตุจอมศีล

เชื่อว่านี่จะเป็นอีกวัดนึงละที่สายบุญน่าจะแฮปปี้ เพราะเป็นวัดป่าที่มาในฟีลเงียบสงบท่ามกลางสีเขียวของต้นไม้ ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอดอกคำใต้ประมาณ 15 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากบรรยากาศสงบสบายแล้ว วัดนี้ยังมีไฮไลท์อยู่ที่หลวงพ่อพุกกะยาภรณ์มณีศรีปทุม ซึ่งเป็นองค์พระพุทธรูปทรงเครื่องแบบกษัตริย์ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก และด้วยความที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง วัดนี้จึงเป็นจุดชมวิวของอำเภอดอกคำใต้ และยังใช้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยจุดหนึ่งอีกด้วยนะ สายบุญชอบไหว้พระ ปักหมุดเลย

จังหวัดน่านและพะเยา คือสองจังหวัดที่คนรักความสโลว์ไลฟ์ เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย น่าจะแฮปปี้ เพราะนี่คือสองจังหวัดเล็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วยพื้นที่ธรรมชาติและพื้นที่การเกษตรสีเขียวขจี ถ้าหนาวนี้คุณกำลังมองหาเส้นทางขับรถเที่ยวสบายๆ ซึ่งเหมาะจะใช้ในการชาร์จแบตให้ชีวิตแบบเต็มที่ เราแนะนำเลยว่าเส้นทางขับรถน่าน – พะเยา คืออีกหนึ่งพิกัดดีๆ ที่ต้องปักหมุดเอาไว้เลย

You may also like...