15 จุดเช็คอินแม่ฮ่องสอน
15 จุดเช็คอินแม่ฮ่องสอน ไปตอนหน้าหนาวนี่ละ…สุดฟิน!
ใกล้หมดหน้าฝนเต็มที หลายคนคงรอที่จะได้สัมผัสลมหนาวกันแบบใจจดใจจ่อแล้วใช่ม้า เชื่อว่าหนึ่งใน wish list ที่หลายคนคิดว่าอยากปักหมุดต้องมีแม่ฮ่องสอนรวมอยู่ด้วยแน่นอน เพราะเมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสวรรค์สำหรับคนรักอากาศหนาว ยิ่งถ้าเป็นคนชอบฟีลแบบสโลว์ไลฟ์เนิบๆ ไม่วุ่นวาย ชอบการได้ใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ นะ มาแม่ฮ่องสอนเลยจ้า รับรองว่าไม่มีจ๋อย แล้วไม่ต้องคอยให้ลมหนาวมาถึงค่อยเริ่มมองหาตั๋วเครื่องบินเด้อ เพราะถึงป่านนั้นตั๋วอาจจะเต็มหมดอดไปชิลล์ละจ้า จะให้ดีขอให้รีบไปมองหาตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – แม่ฮ่องสอนจาก Traveloka กันไว้ตอนนี้เลย หนาวปุ๊บก็มีตั๋วพร้อมบินได้ปั๊บ ไม่ต้องไปลุ้นเอาดาบหน้า มีเวลาแพลนเยอะก็เที่ยวได้ฟินกว่าเด้อ เชื่อเรา
จองตั๋วเครื่องบินไปแม่ฮ่องสอนกับ Traveloka https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Mae-Hong-Son.HGN
15 จุดเช็คอินแม่ฮ่องสอน
1. บ้านรักไทย
หมู่บ้านจีนยูนนานสุดคูลในเมืองแม่ฮ่องสอนแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คนมาแม่ฮ่องสอนไม่ควรพลาด นอกจากเดินทางง่ายเพราะอยู่ในเขตอำเภอเมืองแล้ว ที่นี่ยังเป็นหมู่บ้านที่ทำให้เราเหมือนหลุดไปอยู่เมืองจีนเลยละ ด้วยบรรยากาศไร่ชาบนเนินเขาที่โอบล้อมทะเลสาบเอาไว้ตรงกลางแบบ 360 องศา โดยจุดที่คนส่วนใหญ่มาแล้วต้องแวะแชะรูปกันก็คือบ้านลีไวน์รักไทย ซึ่งเป็นบ้านสไตล์จีนยูนนานในบรรยากาศสวยเว่อร์ หนาวก็หนาว สวยก็สวย อาหารจีนแถวนี้ก็อร่อยด้วย โอ๊ยยย เริ่ด!!
2. ถ้ำลอด
ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีสถานะเป็นโบราณสถานไปด้วยในตัว เพราะด้านในมีการค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ชื่อถ้ำลอดมาจากการที่เป็นถ้ำซึ่งมีธารน้ำไหลผ่าน วิธีการเที่ยวถ้ำนี้จึงมีหลายรสชาติให้สัมผัสกัน ตั้งแต่การเดินเท้า ล่องแพ ด้านในแบ่งออกได้เป็นอีก 3 ถ้ำใหญ่คือถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา และถ้ำผีแมน ซึ่งแต่ละแห่งก็ให้ความว้าวแตกต่างกันไป อยากรู้ว่าเป็นยังไง หนาวนี้แพ็คกระเป๋าไปลุยเลย
3. ปางอุ๋ง
สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทยที่เชื่อว่าหลายคนฝันอยากจะไปให้ได้ซักครั้ง เพราะวิวที่นี่ถือว่าทีเด็ดกินขาดชนะเลิศ ด้วยการเป็นป่าสนบนเนินเขาสีเขียวที่ไม่ว่าจะเหลียวไปตรงไหนก็ได้เห็นความสวยในทุกมุม โอบล้อมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ให้ฟีลทะเลสาบเมืองสวิสแบบสุดๆ ด้วยหงส์ขาวหงส์ดำที่ว่ายอ้อยอิ่งอยู่เหนือผิวน้ำ มากางเต็นท์นอนดูดาว แล้วตอนเช้ามาล่องแพชมหมอกบางๆ ที่ลอยกรุ่นเหนือผืนน้ำขาวๆ ฟุ้งๆ นะ โรแมนติกจนถ้ามากับเพื่อนคืออารมณ์เสียอ่ะ พูดเลย!
4. สะพานซูตองเป้
อีกหนึ่งพิกัดเช็คอินที่เดินทางง่ายและให้ฟีลแบบคูลมาก ก็คือสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวผ่านทุ่งนาเขียวขจีในช่วงหน้าฝน ซึ่งครองสถิติเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สะพานแห่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะความศรัทธาร่วมแรงร่วมใจของพระสงฆ์และชาวบ้านในละแวก ที่ช่วยกันลงมือสร้างสะพานข้ามผืนนาจนสำเร็จเพื่ออำนวยความสะดวกเชื่อมวัดกับหมู่บ้านให้เดินถึงกันได้ง่ายขึ้น ซูตองเป้นั้นเป็นภาษาไทยใหญ่ที่แปลว่าคำอธิษฐานที่สำเร็จสมหวัง จึงเชื่อกันว่าหากได้มายืนตรงกลางสะพานแห่งนี้ แล้วอธิษฐานถึงสิ่งใด ก็จะได้สมความปรารถนา อยากรู้ว่าจริงมั้ยต้องมาลอง
5. จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล
เพราะหนึ่งในไฮไลท์ของการเที่ยวในหน้าหนาวที่ใครต่อใครอยากเห็นก็คงหนีไม่พ้นทะเลหมอก และนี่คือหนึ่งพิกัดที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอยอดฮิตอย่างปาย ซึ่งเชื่อว่าหลายคนเล็งเอาไว้อยู่แล้วละ จุดชมวิวแห่งนี้อยู่ในเขตหมู่บ้านสันติชล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านของชาวจีนยูนนานที่โยกย้ายถิ่นฐานมาปักหลักกันในไทย ไฮไลท์ของการมาชมทะเลหมอกที่นี่จึงอยู่ที่คุณจะได้มีโอกาสจิบน้ำชาร้อนๆ อร่อยกับหมั่นโถวสไตล์ยูนนาน ไปพร้อมการชมทะเลหมอกสวยๆ ตรงหน้า เชื่อเหอะว่าฟิน!
6. วัดพระธาตุดอยกองมู
เป็นวัดสีขาวบริสุทธิ์บนเนินเขาที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2403 ซึ่งเดินทางได้สะดวกมากเพราะห่างจากตัวเมืองเพียงแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้น ชาวแม่ฮ่องสอนเชื่อกันว่าที่นี่เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งอัญเชิญมาจากประเทศพม่า ที่นี่จึงเป็นศูนย์รวมความศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวแม่ฮ่องสอนมาตั้งแต่ยุคอดีต ตัววัดตั้งอยู่บนที่สูงจึงใช้เป็นจุดชมวิวของตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้แบบเต็มตา สวยทั้งวัดสวยทั้งวิว แถมบรรยากาศยังชิลล์มาก ถ้าพลาดรับรองว่าเสียดาย
7. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่คนรักไม้ดอกไม้ใบและธรรมชาติไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ก็คือการแวะมาชมความสวยของดอกบัวตองสีเหลืองสดใสที่จะพร้อมใจกันบานปกคลุมเต็มพรืดทั่วทั้งเทือกเขา โดยในหนึ่งปีดอกบัวตองจะมีให้ชมกันได้แค่เพียงหนึ่งครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคมเท่านั้นเด้อ ที่นี่นับเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพราะกินพื้นที่ถึง 1,000 ไร่เลยนะ ทั่วพื้นที่มีจุดชมวิวให้ชิลล์ให้แชะกันได้หลายจุดเชียวละ ปักหมุดแล้วจองตั๋วเลยนะ อย่าคิดนาน เพราะดอกบัวตองน่ะมีช่วงบานสะพรั่งแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวอดไม่รู้ด้วย
8. วัดจองกลาง – วัดจองคำ
ความเก๋แรกของที่นี่คือการที่เป็นวัดแฝดสไตล์ไทใหญ่ซึ่งรวบสองวัดเอาไว้ในขอบกำแพงเดียวกัน ความเก๋ที่สองคือการตั้งอยู่ริมหนองจองคำ ซึ่งทำให้เกิดวิววัดสวยสะท้อนลงบนผืนน้ำยามย่ำค่ำชวนให้ประทับใจเว่อร์! ความเก๋ที่สามและสี่คือการเป็นวัดแห่งแรกที่เกิดขึ้นในแม่ฮ่องสอน โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2340 แถมยังมีหลังคา 9 ชั้นและมีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ นี่แค่ไฮไลท์หลักเท่านั้นนะ เพราะวัดนี้ยังมีทีเด็ดที่ความสวยด้านในอีกเพียบจ้ะ มาแม่ฮ่องสอนแล้วไม่ได้มาวัดนี้ก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่ถือว่าพลาด แค่นั้นเอ๊งงงง
9. บ้านจ่าโบ่
นอกจากจะแวะมาเช็คอินร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาในตำนานของบ้านจ่าโบ่แล้ว ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่อยากให้สายสโลว์ไลฟ์ผู้ชอบชีวิตสไตล์ธรรมชาติหน่อยๆ ลุยนิดๆ ได้มาใช้ชีวิตชิลล์ๆ กันซักคืนสองคืน หมู่บ้านนี้คือชุมชนชาวลาหู่ที่โยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่รวมกันจนก่อตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้นอย่างทุกวันนี้ การมาใช้ชีวิตที่นี่จึงเป็นการเรียนรู้วิถีพื้นบ้านที่เรียบง่ายแต่น่ารัก และยังได้สัมผัสกับอากาศที่เรียกได้ว่าหนาวสะท้านเลยละถ้ามาช่วงปลายถึงต้นปี ใครชอบอะไรแบบนี้นะ ปักหมุดมาที่นี่เลย
10. หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า
เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้สะดวกสบายที่สุดในบรรดาหลายแห่งที่มี เพราะหมู่บ้านนี้เข้าถึงได้ด้วยรถยนต์เลยจ้า ถ้าใครมีเพื่อนร่วมทางเป็นเจ้าตัวเล็กหรือผู้สูงวัยหน่อยนะ ที่นี่คือเหมาะสุด และแน่นอนว่าเมื่อความสะดวกมา นักท่องเที่ยวมา วิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงคอยาวที่นี่จึงพัฒนาขึ้นในรูปแบบที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมาอีกหน่อยนะ ไม่ได้เป็นสไตล์หมู่บ้านแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าใครแค่อยากมาเห็น มาเยี่ยมชม มาถ่ายรูป มาช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นทั้งหลาย เราว่าที่นี่ก็ได้อยู่นะ เพลินๆ แหละ มาแล้วก็ควรแวะแชะรูปกันหน่อยสิ นี่คืออีกหนึ่งชนเผ่าซิกเนเจอร์ที่มีเฉพาะแม่ฮ่องสอนที่เดียวเด้อ!
11. ดอยพุ่ยโค
นับเป็นอีกหนึ่งแหล่งเช็คอินที่ทำให้ฟินกับความสวยได้ไม่ยากเลยละ แถมเราว่ายังเหมาะนะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเที่ยวสไตล์ลุยๆ แนวป่าๆ เขาๆ นอนเต็นท์เป็นครั้งแรกๆ เพราะดอยนี้ถือว่าค่อนข้างชิลล์มาก ด้วยระดับความสูง 1,406 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่เดินขึ้นมาได้สบายๆ ในระยะทางแค่ราวๆ 3 กิโลเมตรเท่านั้น เส้นทางเดินส่วนใหญ่ก็เป็นพื้นดินและทุ่งหญ้า ไม่ต้องบุกป่าฝ่าดงรกชัฏแต่อย่างใด แถมวิวที่ได้เจอคือคุ้มมากกก กลางคืนดาวเต็มฟ้า เช้ามืดตื่นมาเห็นทะเลหมอกแน่นๆ แค่รูดซิปเต็นท์ ไม่เริ่ดก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว!
12. น้ำตกแม่สุรินทร์
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่วิวค่อนข้างตื่นตาตื่นใจเลยละ เพราะเป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ด้วยความสูงกว่า 200 เมตร โดยไหลตรงดิ่งลงมาจากเขาสูง แวดล้อมด้วยป่าไม้สีเขียวขจีรอบด้าน ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือการเดินทางที่สะดวกมาก เพราะสามารถขับรถเข้ามาได้และเดินเท้าต่ออีกไม่ไกลเท่าไหร่นักก็จะถึงบริเวณที่ชมน้ำตกได้แบบเต็มๆ ตา แถมยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ อย่างทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ และภูชี้เพ้ออีกด้วยนะ ดีงามแหละ
13. โป่งน้ำร้อนท่าปาย
มาแม่ฮ่องสอนในช่วงอากาศหนาวๆ อะไรจะดีไปกว่าการได้เอาตัวจุ่มน้ำร้อน นอนแช่ออนเซ็นธรรมชาติแบบไทยๆ ธรรมชาติจริงๆ นะ เพราะว่าไม่มีห้องแช่ส่วนตัวให้เด้อ แต่การแช่น้ำร้อนที่นี่คือการมีโอกาสได้ลงไปแช่ตัวในลำธารน้ำร้อนที่ไหลผ่านผืนป่า รอบด้านจึงเป็นสีเขียวของต้นไม้พร้อมบรรยากาศที่ไม่ได้ประดิษฐ์ปรุงแต่งอะไรเยอะ ที่นี่มีบ่อน้ำร้อนใหญ่ๆ สองบ่อ อุณหภูมิน้ำพุ่งขึ้นไปสุดอยู่ที่ราวๆ 80 องศาเซลเซียส ถ้าไม่อยากลงแช่ แค่เอาไข่มาต้มพอให้ได้เช็คอินแล้วนั่งกินท่ามกลางอากาศเย็นๆ ก็ฟินแล้วละ เลือกเอา
14. ถนนคนเดินปาย
เรียกได้ว่าเป็นถนนคนเดินสายแรกๆ ในเมืองไทย และยังทำให้ปายกลายเป็นที่รู้จักซึ่งหลายคนอยากปักหมุดมา แม้ปัจจุบัน ถนนคนเดินเส้นนี้จะไม่ได้มีเฉพาะข้าวของเครื่องใช้สไตล์ท้องถิ่นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนช่วงแรก แต่ก็ยังนับว่าเป็นพิกัดที่ควรแวะมาเดินเล่นอยู่ดี เพราะมีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง สินค้าพื้นบ้าน ไปจนถึงงานแฮนด์เมดแบบคูลๆ ร่วมสมัย ร้านกินดื่มสบายๆ ก็มีให้เลือกใช้บริการกันเยอะเชียวละ มาเดินเล่นในช่วงอากาศหนาวๆ ก็แฮปปี้อยู่นะ ว่าไม่ได้เชียว
15. ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน
เป็นถนนคนเดินอีกเส้นในเมืองไทยที่บอกได้เลยว่าบรรยากาศคือดีงามเว่อร์ๆ เพราะตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าวัดจองกลาง – วัดจองคำ ในเมืองแม่ฮ่องสอน ส่วนอีกฝั่งเป็นหนองน้ำที่ทำให้วิวสวยไปอีกแบบเมื่อยามสะท้อนแสงไฟขึ้นมา ไฮไลท์อีกอย่างของถนนคนเดินเส้นนี้ก็คือบรรดาอาหารและข้าวของท้องถิ่นในสไตล์ของชนชาวไทใหญ่หรือชาวเขา ซึ่งหลายอย่างอาจไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนัก ยิ่งในช่วงหน้าหนาวซึ่งถือว่าเป็นไฮซีซั่นนี่คือมีให้เดินเล่นกันได้เกือบทุกวันเลยเด้อ สวยเพลินเดินชิลล์มาก อยากให้ทุกคนได้ไปจริงๆ
แม่ฮ่องสอนคืออีกหนึ่งพิกัดสำหรับคนรักธรรมชาติและไลฟ์สไตล์แบบท้องถิ่นของชนชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆ ซึ่งน่าสนใจมาก แถมเกือบทุกแห่งยังมีแต่กลิ่นอายของบรรยากาศที่สบายๆ เรียบง่าย ไม่เร่งร้อน ใครชอบฟีลต๊ะต่อนยอนแบบไม่แออัดมากนัก ปักหมุดเอาไว้ได้เลย แถมเดี๋ยวนี้ถ้าใครไม่มีภูมิต้านทานอาการเมารถที่แข็งแกร่งนัก ก็บินตรงแค่อึดใจเดียวเด้อ ง่ายกว่าการนั่งรถพิชิตโค้งนับพันอย่างแต่ก่อนเยอะมากกกกก สะดวกขนาดนี้ก็อยากชวนให้ทุกคนแวะมา รับประกันว่าแม่ฮ่องสอนน่ะตกหลุมรักได้ไม่ยากเลยจริงๆ แต่หรือถ้าใครจะเช่ารถแม่ฮ่องสอน หรือมองหาบริการรถเช่า ที่บินลงสนามบินมาปุ้ปก็รับรถได้เลย ก็อย่าลืมจองรถเช่า หรือเช่ารถกับ Traveloka > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental