15 ที่เที่ยว ‘น่าน’ ไง

15 ที่เที่ยว ‘น่าน’ ไง – – ชิลล์ขนาดนี้ก็ต้องไปละแมะ??

น่าน คืออีกหนึ่งพิกัดขวัญใจใครต่อใครที่หลงใหลบรรยากาศเนิบๆ เรื่อยๆ สไตล์สโลว์ไลฟ์ไม่เร่งร้อน ยิ่งเป็นช่วงที่ทุกคนอยากเดินทางพักผ่อนแต่ก็ต้องรักษาระยะห่างระหว่างกัน น่านก็ยิ่งตอบโจทย์นี้ได้สบาย เพราะนี่คือเมืองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทุ่งนา แม่น้ำ และภูเขา ซึ่งให้ฟีลแบบโล่งๆ ไม่ได้มีผู้คนแออัด ใครที่จัดตัวเองอยู่ในหมวดสายชิลล์ชอบบรรยากาศเนิบๆ จึงหลงรักน่านได้แบบไม่ยากเลยละ แล้วยิ่งลมหนาวปลายปีกำลังจะผ่านเข้ามาแบบนี้ เชื่อว่าน่านจะยิ่งทวีความชิลล์คูณสามคูณสี่ไปเลยจ้า และถ้าคุณกำลังเล็งพิกัดที่นี่ไว้ แนะนำให้รีบเข้าไปจองตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ – น่านในเว็บไซต์ Traveloka กันก่อนเลยน้า อย่ามัวแต่ใจเย็นเกินไป มาจองระยะใกล้ๆ หาตั๋วไม่ได้ไม่รู้ด้วยนะเอ้า!

จองตั๋วเครื่องบินไปน่านกับ Traveloka https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Nan.NNT

15 ที่เที่ยวน่านสุดชิลล์

1. วัดพระธาตุแช่แห้ง

ไหนๆ มาถึงน่านแล้วทั้งที ก็ควรต้องแวะมาสักการะพระธาตุคู่เมืองนี้กันซักหน่อยเป็นไร ว่ากันว่าวัดนี้สร้างมาได้กว่า 600 ปีแล้วนะ ด้านในเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัยในช่วง พ.ศ.1891 เกือบทุกจุดนั้นสวยงามในศิลปกรรมสไตล์น่านแท้ๆ จนขึ้นชื่อว่าเป็นโบราณสถานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา ว่ากันว่าการได้มากราบนมัสการที่นี่ จะให้อานิสงส์ส่งให้มีชีวิตที่ดี หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ปราศจากโรคภัยมาเบียดเบียน ปักหมุดเลยจ้า มาน่านแล้วควรแวะมาเน้อ

2. บ้านหาดผาขน

ถ้าอยากได้บรรยากาศสุดชิลล์กับวิวริมแม่น้ำสบายๆ ที่นี่ช่วยได้แน่ๆ เพราะบ้านหาดผาขนเป็นชุมชนเล็กๆ แต่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ชาวบ้านละแวกนี้ทำอาชีพเกษตรกรโดยเฉพาะสวนผลไม้เป็นหลัก ตัวหมู่บ้านทอดยาวขนานไปใกล้กับแม่น้ำน่าน แถมมีบริการโฮมสเตย์ให้เลือกหลากหลาย ใครอยากได้ความสโลว์ไลฟ์บอกเลยว่าที่นี่มีให้แบบเต็มๆ จะล่องแพชมความสงบริมน้ำก็เพลิน จะเดินเล่นหรือปั่นจักรยานรอบหมู่บ้านก็ดี ถ้าชอบฟีลสไตล์ท้องถิ่นที่ไม่พลุกพล่านวุ่นวาย บอกได้เลยว่าที่นี่ตอบโจทย์แน่นอน

3. ถนนลอยฟ้า

จะบอกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์นะ แต่เชื่อว่าใครมาน่านก็ต้องแวะมาถ่ายรูปเช็คอินที่นี่แน่ๆ อ่ะ งงมั้ย? เพราะนอกจากจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างแหล่งท่องเที่ยวอย่างอำเภอปัวสู่อำเภอบ่อเกลือแล้ว ถนนเส้นนี้ยังเป็นถนนที่คดเคี้ยวลัดเลาะไปบนทิวเขา ระหว่างทางที่นั่งรถไปจึงจะได้เห็นต้นไม้เขียวขจี ผืนป่า สลับกับวิวทะเลหมอกที่ลอยอยู่รอบตัวเป็นระยะ เป็นถนนลอยฟ้าที่สวยตลอดเส้นทาง แต่ยังไงก็ขับรถกันแบบระวังๆ ด้วยเด้อ

4. เสาดินนาน้อย

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะจะเป็นโลเกชั่นถ่ายรูปแบบคูลๆ ในเมืองน่าน ซึ่งจะให้อารมณ์ฉีกไปจากพื้นนาสีเขียวขจีที่เป็นซิกเนเจอร์ของจังหวัดนี้ทีเดียวละ คอกเสือ – เสาดินนาน้อยตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ที่นี่มีวิวแปลกๆ ของพื้นดินที่เกิดจากการถูกกัดเซาะจากสายลม ฝน และแสงแดดมานับพันนับหมื่นปี จนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตาและน่าสนใจ ให้ฟีลคล้ายกับแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่ เดินเลาะหามุมซักหน่อยนะ เชื่อว่าได้รูปเก๋ๆ กลับไปแน่นอน

5. วัดภูมินทร์

อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปี และถือเป็นซิกเนเจอร์ที่ใครมาน่านก็ต้องแวะละ เพราะนอกจากจะได้กราบพระประธานแบบจตุรพักตร์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ใจกลางโบสถ์ทรงจตุรมุขแห่งเดียวในเมืองไทยแล้ว ที่วัดนี้ยังมีไฮไลท์เป็น ‘ฮูปแต้ม’ หรือภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 4 ซึ่งหลายคนขนานนามให้เป็นภาพกระซิบรักบรรลือโลก หรือภาพปู่ม่านย่าม่าน ซึ่งเป็นรูปวาดชาวไทลื้อในสมัยโบราณแบบน่ารักน่าเอ็นดู ว่ากันว่ามาน่านแล้วไม่ได้เห็นภาพนี้ ถือว่ายังเหยียบเมืองน่านได้ไม่เต็มที่เน้อ อย่าลืมแวะเชียว

6. ดอยเสมอดาว

ถ้ามองหาความชิลล์ในบรรยากาศลุยๆ อย่างการกางเต็นท์นอนดูดาว แต่ไม่ไหวจะเดินบุกป่าฝ่าดงขึ้นเขาเป็นกิโลๆ เหมือนสายแอดเวนเจอร์ทั้งหลาย ปักหมุดไว้เลย ดอยเสมอดาวนี่ละตอบโจทย์ที่สุดแล้ว เพราะสามารถขับรถขึ้นไปแบบสบายๆ จนถึงบริเวณยอดดอยที่เป็นจุดกางเต็นท์ได้เลยจ้า ลงรถปุ๊บ ก็เดินเลือกจุดกางเต็นท์ที่ถูกใจ จากนั้นก็ปักหลักรอดูดาวเต็มฟ้าในตอนค่ำ ต่อด้วยการชมทะเลหมอกยามเช้าได้แบบสบายๆ เป็นการนอนเต็นท์ที่ง่ายและคูลมาก พูดเลย

7. วัดพระธาตุเขาน้อย

สันนิษฐานกันว่าวัดนี้มีความเก่าแก่และอายุการก่อสร้างในยุคเดียวกับพระธาตุแช่แห้งเลยเชียวนะ วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีความสูงราวๆ 250 เมตร และเป็นจุดเดียวที่จะสามารถชิมวิวเมืองน่านในมุมสูงได้ ด้านในวัดมีความสวยของศิลปกรรมในรูปแบบพม่าผสมล้านนาที่สวยแปลกตาเชียวละ ด้านในขององค์เจดีย์ยังเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุขององค์พระพุทธเจ้าให้เราได้กราบไหว้กัน อยากเห็นวิวท้องฟ้าช่วงทไวไลท์ให้มาตอนเย็นๆ หน่อยนะ แต่ถ้าจะมาดูทะเลหมอกก็ตรงดิ่งมาตอนเช้าเลยจ้า เดินทางไม่ยากเพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองแค่นิดเดียว

8. วังศิลาแลง

ได้ชื่อว่าเป็นแกรนด์แคนยอนแห่งอำเภอปัวในเมืองน่าน เพราะตรงนี้มีวิวชะง่อนหินที่ผ่านการกัดเซาะของสายน้ำที่ไหลผ่านมาเนิ่นนาน จนกลายเป็นวิวอเมซิ่งแลดูสวยแปลกตา ตลอดระยะทางยาวราวๆ 400 เมตร จะมีวังน้ำและผาหินให้ชมกันเป็นระยะ ถ้ามาในช่วงที่น้ำไม่เยอะมากก็จะเดินเข้าไปดูกันได้ลึกหน่อยละ แต่ถ้ามาหน้าน้ำต้องระวังเรื่องน้ำหลากหน่อยนะ ยังไงหาคนพื้นที่นำเข้าไปดีกว่า จะได้ดูจุดสวยๆ แบบไม่มีตกหล่น แล้วยังปลอดภัยด้วยนะ เชื่อเรา

9. น้ำตกสะปัน

อีกหนึ่งที่เที่ยวในอำเภอบ่อเกลือ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ยังคงความสวยตามธรรมชาติเอาไว้แบบ 10 เต็มไม่หัก!! ตัวน้ำตกมีสามชั้น แต่ละชั้นสูงตั้งแต่ 3 ถึง 6 เมตร น้ำตกที่นี่มีน้ำตลอดทั้งปี แต่จะมากน้อยก็ต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลนะ ที่นี่จะเหมาะกับสายลุยที่ชอบเดินป่าซักหน่อย เพราะแม้เส้นทางจะไม่ได้โหดเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบละ เอาเป็นว่าได้แหวกได้ปีนกันพอได้เหงื่อ ไม่น่าเบื่อแน่นอน

10. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

โดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองเพราะเป็นอาคารสวยสะดุดตา ด้วยศิลปกรรมแบบตะวันตกพบตะวันออกอย่างสุดจะลงตัว ในยุคโบราณ ที่นี่เคยเป็น ‘หอคำ’ หรือที่ประทับของเจ้าผู้ครองเมืองน่านมาก่อน ด้านในแบ่งเป็นสองชั้น จัดแสดงประวัติศาสตร์ ที่มา และของล้ำค่าของเมืองน่านอย่างงาช้างดำซึ่งหาชมได้ยาก ด้านนอกยังมีพิกัดไฮไลท์ที่ใครไปก็ต้องแวะถ่ายรูปอย่างอุโมงค์ต้นลีลาวดีที่ทอดตัวยาวเป็นซุ้มคลุมทางเดินในสวน ด้านนอกก็สวย ด้านในก็ทรงคุณค่า มาเลยจ้า คุ้ม!

11. อำเภอปัว

ถ้าคุณรักป่า รักเขา รักนาข้าวและบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ บอกเลยว่าไม่ไปปัวไม่ได้แล้วจ้า เพราะนี่คืออำเภอสุดชิลล์ที่มีบรรยากาศสบายๆ เต็มไปด้วยผืนนาสีเขียวในช่วงฤดูฝน รายล้อมด้วยทิวเขาใหญ่น้อยรอบด้าน แล้วยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมพื้นบ้านของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นไทลื้อ ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง เมี่ยน และลั้วะ ธรรมชาติก็ปัง วัฒนธรรมก็น่ารัก บรรยากาศก็สบายๆ ใครอยากพักใจแนะนำว่าให้ปักหมุดที่นี่เอาไว้เลย

12. วัดภูเก็ต

ถ้ามาเที่ยวที่ปัว สถานที่ซึ่งทุกคนต้องมาเช็คอินกันรัวๆ ก็คือที่วัดภูเก็ตนี่ละ นอกจากจะได้มาไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ที่วัดนี้ยังมีไฮไลท์เป็นจุดชมวิวทุ่งนาและเทือกเขายาวเหยียดในมุมสูงแบบพาโนรามา ที่เรียกว่าเว่อร์วังปังที่สุด ณ จุดนี้ โดยว่ากันว่าจะสวยพีคในช่วงเช้านะ เพราะมีทั้งแสงสวยๆ และสายหมอกบางๆ อยู่ตรงหน้า อ้อ… ถ้ามานอกฤดูฝนอาจจะไม่ได้เห็นทุ่งนาสวยๆ เน้อ แต่ก็จะเจอกับอากาศเย็นสบายและไร่พืชผลอย่างอื่นแทน แต่ยังไงก็ยังสวยอยู่แหละ รับรอง

13. ดอยภูคา

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่สายธรรมชาติแบบตัวจริงเสียงจริงต้องปักหมุดเอาไว้เลย ยิ่งเข้าช่วงปลายฝนต้นหนาวปลายปีแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นช่วงที่พีคมากสำหรับการมาดอยภูคา เพราะป่าก็สวยสมบูรณ์ อากาศก็เย็นสบาย โอกาสจะได้เห็นทะเลหมอกก็มีเพียบ แต่ถ้าใครอยากสัมผัสความหนาวแบบสะใจต้องไปช่วงธันวาคม – มกราคมนะ รับรองว่าได้เจอความเย็นกันแบบจุกๆ ชัวร์

14. ดอยสวนยาหลวง

เชื่อว่าหลายคนต้องร้อง ฮึ?? เมื่อได้ยินชื่อดอยนี้ เพราะที่นี่อาจจะไม่ใช่จุดท่องเที่ยวที่คุ้นหูคนหมู่มากเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะอยู่ห่างจากตัวเมืองน่านไม่ถึง 80 กิโลเมตรเท่านั้น การเดินทางมาที่ดอยนี้ต้องใช้บริการรถของชาวบ้านที่หมู่บ้านสันเจริญซึ่งเป็นรถโฟว์วีลไดร์ฟในการขึ้นมา ซึ่งถ้าเป็นช่วงหน้าฝนอาจจะต้องเดินเท้าต่ออีกนะเนื่องจากรถยนต์ไม่สามารถขึ้นได้ถึงบริเวณยอดดอย ฟังดูไม่ง่ายแต่ก็ไม่ถึงกับลำบากนัก ถ้าหากคุณเป็นสายธรรมชาติที่แท้ทรูนะ แนะนำเลย เพราะที่นี่จะเห็นวิวรอบด้านได้แบบ 360 องศา และไม่แออัดเบียดเสียดวุ่นวาย ใครชอบสไตล์นี้ขอให้ปักหมุดรัวๆ

15. ถนนคนเดินน่าน

นับเป็นสวรรค์ของนักช้อปสายชิลล์ที่ชอบบรรยากาศสบายๆ และไม่อยากเดินแบบไกลๆ ยาวๆ เพราะถนนคนเดินเส้นนี้มีระยะทางสั้นๆ แค่ประมาณ 500 เมตร จากสี่แยกวัดพระธาตุช้างค้ำไปจนถึงหน้าวัดภูมินทร์กลางเมืองน่าน แม้จะไม่ได้ใหญ่โตอลังการแต่ถนนคนเดินน่านก็มีทุกสิ่งให้เลือกสรรนะ ตั้งแต่อาหารพื้นเมือง เสื้อผ้าข้าวของแฮนด์เมดสไตล์ท้องถิ่น ของที่ระลึก ไปจนถึงผลไม้เมืองหนาวตามฤดูกาล ที่นี่เปิดกันช่วงเย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นะ มาน่านก็อย่าพลาดเชียว

เมืองน่านได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีบรรยากาศชิลล์มาก ใครชอบความต๊ะต่อนยอนแบบสะดวกสบาย ในตัวเมืองหรืออำเภอใหญ่ๆ ก็ตอบโจทย์เว่อร์ ส่วนถ้าใครเป็นสายลุยชอบเดินป่าเดินเขาทั้งหลาย น่านก็มีให้ได้แอดเวนเจอร์กันอยู่เพียบ ทั้งเดินทางง่ายและแบบที่ต้องใช้ความอึดถึกบึกบึนกันกันพอประมาณ ใครอยากได้จุดเช็คอินวันพักผ่อนแบบเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติ ห้ามพลาดเมืองน่านเลยเชียวละ อ๋อ! แล้วถ้าคุณอยากขับรถเที่ยวน่าน อยากจัดทริปน่าน Road Trip สามารถจองบริการรถเช่า บริการใหม่จาก Traveloka ได้เลย

You may also like...