ขับรถเที่ยวตรัง อยากรู้ว่าปังแค่ไหน ต้องไปลอง!!!

จังหวัดตรัง นับเป็นแหล่งขุมทรัพย์สำหรับคนรักทะเลภาคใต้ แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้เป็นชื่อแรกที่หลายคนนึกถึงเหมือนภูเก็ตหรือสมุย แต่เชื่อเหอะว่าความสวยของทะเลตรังก็ไม่แพ้ใคร! ที่เด็ดคือนอกจากทะเล จังหวัดนี้ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกหลายเวอร์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวๆ ของต้นไม้ ความชิลล์ของน้ำพุร้อนธรรมชาติ และที่เที่ยวอาร์ตๆ ชิคๆ อีกเพียบ ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างต้องยกให้กับอาหาร เพราะเมืองนี้มีสารพัดเมนูอร่อยให้เลือกกินกันละลานตา! แถมยังเป็นที่เที่ยวซึ่งไม่ได้แออัดยัดเยียดจนไม่มีพื้นที่หายใจ เหมาะจะเป็นพิกัดให้เราได้ไปชมฟ้าชมทะเลสูดอากาศให้สดชื่นหลังจากกักตัวอยู่บ้านกันมาแบบยาวๆ และคราวนี้เราขอชวนให้ไปเที่ยวกันแบบส่วนตัว ด้วยการเช่ารถขับทัวร์เมืองตรังกันดูบ้าง เดินทางก็ง่ายเพราะจองตั๋วเครื่องบินนั่งชิลล์ไปแค่ชั่วโมงเดียว ลงเครื่องปุ๊บก็รับรถขับได้ปั๊บ เพราะเราจองทั้งสองอย่างกับ ไม่ว่าจะเป็นการเช่ารถ หรือว่าจองตั๋วเครื่องบิน ก็จองได้กับ Traveloka แบบสะดวกสบาย แล้วรถอ่ะ จะขับเองก็ได้ หรือจะเช่าแบบมีคนขับพร้อม เค้าก็มีให้ด้วยนะ

จองตั๋วเครื่องบินตรังกับ Traveloka https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Trang.TST

ถ้าใครเป็นคนชอบป่า แฮปปี้ที่จะได้มาอยู่ท่ามกลางสีเขียวของต้นไม้ ขับรถออกมานอกตัวเมืองตรังเพียงแค่ประมาณ 13 กิโลเมตรเท่านั้น ก็จะถึงสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ซึ่งเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่กว้างกว่า 2,500 ไร่ รวบรวมพันธุ์ไม้ใหญ่น้อยของป่าภาคใต้เอาไว้เพียบ ด้านในมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่ให้ฟีลเหมือนได้เข้าไปเดินอยู่กลางป่าลึก แต่บอกเลยว่าเดินได้ไม่ยากเกินไปนัก ไฮไลท์คือเส้นทางเดินซึ่งเป็นสะพานศึกษาเรือนยอดไม้แห่งเดียวในไทย ให้เราได้เดินดูผืนป่ากันจากมุมสูง โดยมีสะพานทั้งหมด 5 ช่วง สูงตั้งแต่ 10 – 18 เมตร สลับกับหอคอยสูง 6 แห่ง ใครชอบศึกษาต้นไม้ใบหญ้า รักการเดินกลางป่ากับช่วงเวลาที่ได้สูดโอโซนบริสุทธิ์แบบเต็มปอดนะ ที่นี่น่าจะถูกใจ

แลนด์มาร์คเมืองตรังจุดต่อไปที่อยากให้ขับรถแวะกัน ก็คือการไปแช่บ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติกันที่วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง เรียกว่าเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้หายเมื่อยล้าจากที่เดินชมป่ามาได้เป็นอย่างดี ที่นี่มีพื้นที่กว่า 500 ไร่ มีสภาพป่าหลากหลายทั้งป่าดงดิบและป่าพรุที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ตัวบ่อน้ำร้อนที่เปิดให้เข้าไปชมไปแช่กันได้นั้นมีทั้งหมด 3 บ่อ ใครไม่อยากเปียกทั้งตัวเค้าก็มีบ่อแช่เท้าไว้ให้ ถ้าอยากแช่แบบไม่ต้องแคร์สายตาใครก็มีห้องแช่แบบเป็นส่วนตัวให้บริการด้วยจ้ะ แต่หากแค่แช่ยังสบายไม่พอ เค้าก็มีบริการนวดผ่อนคลายให้ด้วยนะ หรือถ้าอยากเดินชิลล์ก็มีเส้นทางเดินชมวิวศึกษาธรรมชาติให้อีก อยากช้อปของที่ระลึกติดมือกลับไปเค้าก็มีวางขาย มั่นใจว่าทุกคนต้องแฮปปี้แน่นอน

รูปจาก https://web.facebook.com/pages/category/Pieกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบ-ท่าขยง-2109027005882665/

ถ้าใครเป็นสายสมบุกสมบันที่ชอบการได้เที่ยวแนวผจญภัยนิดๆ นะ อยากชวนให้มาลองล่องเรือเที่ยวที่ชุมชนบ้านน้ำราบดูซักครั้ง เพราะนอกจากจะได้นั่งเรือชมคลองและผืนป่าโกงกางเขียวขจีแล้ว ยังได้ปีนป่ายขึ้นไปบนเขาจมป่า ซึ่งเป็นจุดที่มีวิวมุมสูงสุดอันซีนแบบ 360 องศาซึ่งเราขอบอกเลยว่าว้าวเว่อร์! นอกจากนั้นเค้ายังมีโปรแกรมชมพระอาทิตย์ตกจากทะเลแหวกบ้านน้ำราบ ซึ่งเป็นพิกัดลับแบบส่วนตัวมากกกก เพราะยังไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านนัก บางวันจึงเหมือนเราได้เช่าพื้นที่กลางทะเลเอาไว้ดื่มด่ำกับวิวสุดโรแมนซ์แบบไม่ปะปนกับใคร ได้ทั้งวิวมุมสูงจากบนเขา ได้ทั้งวิวว้าวๆ กลางทะเล ใครสนใจที่เที่ยวแนวผจญภัยแบบนี้ ติดต่อจองเรือที่ไปที่กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนบ้านน้ำราบไว้ก่อนเลยนะ เชื่อเหอะว่าฟิน!

รูปจาก https://web.facebook.com/jeepkaow/

มาตรังทั้งที อยากชวนให้ตื่นเช้าไปใช้ชีวิตตามวิถีชาวตรังแท้ๆ กับการไปนั่งชิลล์จิบกาแฟหรือชาร้อนพร้อมกับการกินติ่มซำสารพัดรูปแบบเป็นอาหารเช้า ร้านจีบขาวนับเป็นหนึ่งในร้านยอดฮิตของเมืองนี้ที่เราอยากแนะนำ ร้านนี้เปิดแค่ครึ่งวันเช้าเท่านั้นนะ ถ้าอยากชิมของดีก็ต้องตื่นเช้ากันซักหน่อย แล้วบอกเลยว่ายิ่งเช้ายิ่งคึกคัก นั่งกินติ่มซำร้อนๆ ดูผู้คนเข้าออกในร้านที่บรรยากาศวินเทจนิดๆ แบบนี้คือเพลินมากกก หรือถ้าใครอยากกินอาหารจานเดียวอารมณ์จีนๆ ที่แปลกตาแปลกลิ้นหน่อย ที่นี่ก็เริ่ดนะ แถมเค้ายังมีขนมโบราณอย่างขนมชาลต๋าน และปาท่องโก๋แท้ๆ ที่มาแบบขาวจั๊วะให้เราได้ชิมกันด้วยจ้ะ มาแล้วขอบอกว่าต้องลอง!

ถ้ำเลเขากอบ คืออีกหนึ่งสถานที่ที่เราไม่อยากให้พลาดเชียวละเมื่อได้มาเยือนตรัง ที่นี่แตกต่างจากถ้ำทั่วๆ ไป ตรงที่เราจะได้นั่งเรือล่องเข้าไปชมด้านในถ้ำ ผ่านเส้นทางที่ใช้ล่องเรือยาว 4 กิโลเมตร แบ่งเป็นห้องต่างๆ ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามตามคอนเซ็ปท์แตกต่างกันไป ตลอดทางในช่วงแรกเราจะได้ลงเรือสลับขึ้นฝั่งไปดูห้องต่างๆ ที่อยู่ด้านใน ซึ่งสวยนะ แต่เราขอบอกว่าสิ่งที่ต้องยกให้เป็นไฮไลท์ คือช่วงกลางถึงตอนท้ายที่ต้องนอนราบไปกับพื้นเรือ เนื่องจากเพดานถ้ำจะต่ำมากกก ชนิดที่ว่าเงยหัวขึ้นมาไม่ได้เลยเชียวละ คอนเซ็ปท์ตรงนี้คือการสมมติเหมือนกับเราลอดท้องมังกร ซึ่งเราจะได้ลูบหัวใจมังกรด้วยนะ บอกเลยตรงนี้ว่าระทึกมากกกกก อเมซิ่งสุดคือยังสงสัยถึงทุกวันนี้ว่าพี่ๆ คนพายเรือน่ะ เค้าพาเราออกมาได้ยังไง!!!!! ใครไม่กลัวที่แคบ อันนี้ต้องไปนะ กาดอกจันไว้เลย เด็ดมากกกกกกกก

รูปจาก https://www.tnews.co.th/variety/411912/เปิดตำนาน-พระพุทธไสยาสน์ทรงเทริดมโนราห์-ไว้ปากถ้ำ-รักษาสมบัติ-เผยลงปริศนาธรรมฉบับครูมโนราห์เพื่อคุ้มครอง!!

สำหรับสายบุญทั้งหลาย อยากชี้เป้าให้ไปที่วัดภูเขาทองในอำเภอเมืองซักหน่อยจ้า เพราะที่นี่มีองค์พระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่แปลกตาไม่เหมือนใคร เพราะองค์พระนอนของที่นี่มีรูปแบบการทรงเทริดมโนราห์บริเวณเศียร ซึ่งนับเป็นองค์เดียวในประเทศไทย และไม่ใช่ธรรมดาเพราะมีอายุผ่านร้อนผ่านหนาวมานับพันปี มีตำนานคร่าวๆ ว่าพระองค์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปิดปากถ้ำซึ่งด้านในมีขุมสมบัติโบราณซ่อนอยู่ จริงไม่จริงไม่รู้นะ แต่ถ้าชอบไหว้พระ เราว่าวัดนี้ละน่าสนใจ

รูปจาก https://web.facebook.com/laytrang2/

หนึ่งในร้านอาหารชื่อดังของเมืองตรังที่ว่ากันว่ามาแล้วต้องกิน ก็คงต้องยกให้ที่ร้านเลตรัง 2 ร้านนี้มีให้ชิมกันตั้งแต่เมนูอาหารเช้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวตรังอย่างติ่มซำ ไปจนถึงเมนูอาหารใต้รสจัดจ้านที่กินกันเมื่อไหร่คือหายง่วง! บอกเลยว่าบรรยากาศร้านคือดีเริ่ดดด มีความบูติกกว่าร้านติ่มซำทั้งหลายที่เราคุ้นเคยเลยละ ร้านนี้เปิดให้บริการสองช่วงเวลานะ คือเช้ากับเย็น นอกจากติ่มซำก็ยังมีเมนูเด็ดของชาวใต้ให้ลองสั่งมาชิมอีกเพียบ เลือกเอาเวลาที่พร้อมก็แล้วกัน เพราะอาหารน่ะอร่อยตลอดอยู่แล้ว!

รูปจาก https://web.facebook.com/TRANG-Street-ART-890855880937405/

บ่ายแก่ๆ แดดเริ่มสบายๆ ถ้าใครอยากหาที่เดินย่อยอาหาร ในเมืองตรังเค้าก็มีสตรีทอาร์ตแบบสามมิติให้แวะเก็บแต้มถ่ายรูปเช็คอินกันอยู่ 3 จุดนะ ถ้าอยากเดินเล่นขำๆ อันนี้ก็เพลินไม่ใช่น้อยเลยละ แต่ถ้าอยากได้ฟีลรูปที่ฮิปกว่าในตัวเมืองอีกหน่อย ขอแนะนำให้ขับรถไปใกล้ๆ อีกไม่ถึง 30 กิโลเมตร ไปที่ตัวอำเภอกันตังนะ ที่นั่นก็มีสตรีทอาร์ตให้ตามถ่ายรูปตามเช็คอินกันอยู่อีกหลายแห่ง ไปเดินชิลล์โพสต์ท่าถ่ายรูปเก๋ๆ ก็สนุกดี ใครชอบถ่ายรูปเราว่าเพลินแหละ เอาจริง

รูปจาก https://web.facebook.com/greenhouseattrang/

สำหรับสายขนมที่มองหาอาหารหวานหน้าตาดีไว้ถ่ายรูปอัพ ig เช็คอินอวดชาวโลก บอกเลยว่าร้าน Green House ณ ตรัง จะไม่มีทางทำให้ผิดหวังเลยเชียวละ เพราะขนมร้านนี้อ่ะหน้าตาดี๊ดี โดยเฉพาะถ้าใครเป็นคนชอบเค้กนะ มาไม่ผิดที่แล้วจ้า นั่งกินขนมอร่อยๆ หน้าตาน่ารัก จิบเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อนไปเพลินๆ ก่อนไปเดินเล่นกันต่อเป็นการเพิ่มพลัง เชื่อว่ายังไงก็แฮปปี้กันถ้วนหน้า จริงมั้ย?

ในเมื่อได้ดูพระอาทิตย์ตกแบบเขียวๆ กลางวิวป่าเขากันไปแล้วนะ อีกหนึ่งอย่างที่ไม่น่าพลาดก็คือการดูพระอาทิตย์ตกริมทะเล และถ้าไม่อยากขับรถต่อไปไกล ในอำเภอกันตังก็มีพื้นที่หาดเจ้าไหมให้ได้แวะไปเดินเล่นกัน แม้ว่าที่นี่จะไม่ได้มีหาดทรายขาวจั๊วะหรือน้ำทะเลสีฟ้าใส แต่ไฮไลท์ของตรงนี้ก็คงต้องยกให้กับพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น ถือเป็นชายหาดที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่ แถมยังมีฟีลโรแมนติกกับเสียงคลื่นคละกลิ่นอายทะเลให้ได้เสพกันอยู่พอชื่นใจ ถ้าอยากได้แค่บรรยากาศดีๆ เราว่าที่นี่ก็โอเคแล้วละ

ไม่ไกลมากนักจากหาดเจ้าไหม ก็มีอีกหนึ่งหาดไว้ให้เสพบรรยากาศโรแมนติกช่วงทไวไลท์กัน นั่นคือที่หาดปากเมง ซึ่งเป็นชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยว มีชายหาดยาวสีน้ำตาล และแน่นอนว่าไฮไลท์ของหาดนี้ก็คือช่วงบรรยากาศยามเย็นอีกเช่นกัน หาดนี้จะค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านมากนัก ใครหาที่ชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ แบบ new normal ไม่ต้องเบียดเสียดกับใคร เชิญเช็คอินที่นี่ได้เลยจ้า

รูปจาก https://web.facebook.com/3rdplacecoffee/

จบจากมื้อสุขภาพไป ถ้ายังไม่รู้จะไปไหนดีในช่วงเย็นๆ ค่ำๆ แบบนี้นะ ขอแนะนำให้ไปหาที่นั่งชิลล์ๆ เม้าท์มอยกันต่อ กับคาเฟ่เล็กๆ แต่บรรยากาศดีที่ชื่อ 3rd Place Coffee ซึ่งมีที่นั่งแฮ็งค์เอ๊าท์กลางสนามหญ้าให้เราได้กินขนมอร่อยๆ พร้อมมองท้องฟ้ายามค่ำไปในขณะเดียวกัน ใครที่ไม่ชอบความคับแคบแออัดน่าจะเพลินละ แล้วยิ่งเป็นช่วงที่ต้อง social distancing กันแบบนี้นะ ยิ่งนับว่าฟีลร้านนี้คือใช่ เอาไว้ไดเอ็ทพรุ่งนี้ก็แล้วกันน่า!

แทบไม่น่าเชื่อแหละว่าอยู่ที่เมืองตรังเราก็ยังมีทะเลหมอกให้ดูได้ กับการเดินขึ้นไปชมแสงแรกสวยๆ ของวันกันที่วังผาเมฆ เส้นทางเดินขึ้นเขาไม่ไกลนักแค่ประมาณ 600 เมตรเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เดินทางแบบสมบุกสมบันเท่าไหร่อาจจะชาเล้นจ์นิดนึงนะ ที่สำคัญคือควรต้องนัดกับเจ้าหน้าที่ก่อนมา เพราะถ้าไม่มีรถกระบะหรือรถโฟว์วีลก็น่าจะขึ้นได้ยากนิดนึง แล้วก็ยังต้องให้เจ้าหน้าที่เค้านำเดินไปด้วยเด้อ จะให้ดีมาค้างแถวนี้ก่อนซักคืนก็ได้ เพราะถ้านอนในเมืองอาจจะต้องตื่นกันเช้ามากหน่อยละ อาจจะฉุกละหุกนิดนึง เลือกเอาตามสะดวกละกันนะ แต่ไม่ว่าจะแบบไหน บอกได้เหมือนกันตรงที่ว่าเห็นวิวแล้วหายเหนื่อยจ้ะ คุ้มเว่อร์!

รูปจาก https://web.facebook.com/nineteenfiftytwocafeattrang/

ชมวิวกันเสร็จก็ขอกลับเข้าเมืองมาหาของอร่อยกินกันต่อดีกว่า มื้อนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารไทยสไตล์ท้องถิ่น มาเป็นอาหารแนวกลิ่นอายตะวันตกกันบ้าง ที่ร้าน 1952 Cafe’ ร้านไม่ใหญ่ใจกลางเมืองที่ตกแต่งทันสมัย ให้ความรู้สึกโล่งสบายไม่แออัด ร้านนี้เสิร์ฟเมนูอาหารจานเดียวกินง่ายที่ไม่ว่าจะมากี่คนก็เชื่อเหอะว่าอิ่มได้ถ้วนหน้า จะสเต็ก สปาเก็ตตี้ พิซซ่า เค้าก็มีให้ชิมครบเด้อ แต่ถ้าเสพติดอาหารไทยก็ไม่ต้องงอแงจ้ะ เพราะที่นี่ก็มีทั้งเมนูไทยแท้และฟิวชั่นให้กินกันด้วย อยากกินไทยหรือฝรั่ง สั่งเลย!!!

เอาใจสายมุดที่ชอบความแอดเวนเจอร์กันอีกนิด กับการขับรถจากตัวเมืองไปที่อำเภอนาโยง เพื่อมุดเข้าไปชมหินงอกหินย้อยสวยๆ ที่ถ้ำเขาช้างหาย ซึ่งอยู่ในภูเขาที่เห็นได้แต่ไกล เพราะเป็นเขาลูกเดียวโดดๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่ราบลุ่มโดยรอบ ถ้ำนี้เที่ยวง่ายเพราะเค้ามีการทำทางเดินด้านในเอาไว้อย่างดี พร้อมมีแสงไฟสว่างจ้าให้เห็นความสวยของผนังถ้ำที่เป็นหินงอกหินย้อยไปชัดๆ ตลอดทาง ข้างในแบ่งออกเป็นถ้ำเล็กๆ อีก 6 ถ้ำ ซึ่งมีความกว้างและความยากง่ายในการเที่ยวชมต่างกันไป ใครชอบแนวผจญภัย ขับรถไปเกยหน้าถ้ำนี้ได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง

จังหวัดตรังเป็นอีกจังหวัดที่ขับรถเที่ยวก็เพลินดีนะ เพราะที่เที่ยวแต่ละแห่งนั้นไม่ได้ห่างกันมากจนถึงขั้นต้องขับกันแบบเหนื่อยหอบ แล้วยังมีที่เที่ยวเด็ดๆ ซ่อนตัวอยู่อีกเพียบตลอดทาง ที่ยกมานี่คือน่าจะยังไม่ถึงครึ่งเลยเชียว การเช่ารถขับเที่ยวตรังกับ Traveloka ของเราครั้งนี้ ถือว่าได้เปิดมิติแหล่งท่องเที่ยวเมืองตรังให้เราใหม่ ว่าตรังไม่ได้เด็ดแค่ทะเลนะจ๊ะ แต่จะป่า จะเขา จะถ้ำ จะน้ำตก เค้าก็มีครบ ใครมองหาที่เที่ยวฟีลสงบๆ แต่ไม่น่าเบื่ออยู่นะ แนะนำเลยว่าตรังน่ะ น่าสนใจ