ชีพจรลง South…Wow ทุกสไตล์ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง

#ชีพจรลง South…Wow ทุกสไตล์

กินแบบดั้งเดิม เสริมความเชื่อ

นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง

เที่ยวภาคใต้ได้ รวย สวย ผอม

สาวๆ คนไหนที่กำลังวางแผนเที่ยวทางภาคใต้ในช่วงนี้ บอกเลยว่ามาถูกทางแล้ว เพราะว่าเส้นทางที่จะชวนมาเที่ยวนี้นอกจากจะมีเสน่ห์ชวนหลงรักแล้ว มาเที่ยวแล้วก็ยังได้รวย สวย ผอม ได้ไหว้พระขอพร ทำสปาดูแลร่างกาย แถมยังมีอาหารอร่อยดีมีประโยชน์ น่าสนใจขนาดนี้ เตรียมตัวแพคกระเป๋ากันได้เลย ที่สำคัญ ยังมีโปรโมชั่นดีๆ ที่พักหลากสไตล์ เอาใจคนชอบเที่ยวด้วย

นครศรีธรรมราช

เมืองนครสองธรรม ที่มีดีทั้งธรรมชาติและธรรมะ โดยเฉพาะเรื่องธรรมะนั้นโดดเด่นไม่แพ้ที่ไหน เมื่อมาถึงเมืองนครก็ต้องไปสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ที่ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ที่นี่ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวนครศรีธรรมราช ในทุกๆ ปีจะมีงานสำคัญนั่นคือ “งานแห่ผ้าขึ้นธาตุ” ที่จะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงวันมาฆบูชา และวันวิสาขบูชา โดยนำผ้าพระบฎผืนยาวเข้าขบวนแห่เพื่อไปห่มรอบองค์พระธาตุ

ไหว้พระธาตุเสร็จแล้วอย่าลืมเดินไปรอบๆ วัด ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกหลายจุด อาทิ “พระวิหารหลวง” ภายในประดิษฐานพระศรีศากยมุนีศรีธรรมราช “วิหารม้า” ที่โดดเด่นไปด้วยภาพพระม้าขนาดใหญ่ รวมถึงมีท้าวขัตตุคาม-รามเทพ ที่เชื่อว่าคือท้าวจตุคามรามเทพอันลือลั่น “วิหารพระแอด” หรือ “พระกัจจายนะ” เชื่อกันว่าผู้ที่มากราบไหว้ขอพรท่านจะช่วยในเรื่องสุขภาพ ช่วยให้หายจากความเจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนผู้หญิงที่อยากมีลูกจะได้ลูกสมหวัง

อีกจุดในนครศรีธรรมราชที่คนนิยมมาขอพรกันก็คือ “ไอ้ไข่” (หรือ ตาไข่) ที่ “วัดเจดีย์” เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณเด็กศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดเจดีย์(ลูกศิษย์วัดเจดีย์) ที่สามารถมากราบไหว้ขอพรได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ขอเรื่องโชคลาภ ขอให้ร่ำให้รวย ขอให้ค้าขายได้กำไรดีเงินทองไหลมาเทมา ฯลฯ แต่ละวันจะมีผู้คนหลั่งไหลกันมากราบไหว้ขอพรไอ้ไข่กันไม่ได้ขาด ใครที่ขอพรประสบความสำเร็จสมหวัง ก็จะนำสิ่งของต่างๆ หลากหลายมาแก้บนกันตามความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ชุดเสื้อผ้าของเด็ก ชุดทหารของเด็ก ตุ๊กตาทหาร ขนม น้ำแดง ไข่ต้ม รวมไปถึงการแก้บนด้วยการจุดประทัดแก้บนในบริเวณด้านข้างรูปเคารพไอ้ไข่

ส่วนในช่วงสงกรานต์ ใครเบื่อบรรยากาศการสาดน้ำแบบทั่วไป แนะนำให้มาที่นี่ เพราะจะมีประเพณีเก่าแก่ของชาวนครที่ชื่อว่า “พิธีแห่นางดาน” ตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมา เป็นงานประเพณีที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย โดยนางดานหรือนางกระดาน เป็นแผ่นไม้กระดานที่มีขนาดความกว้างหนึ่งศอกและสูงสี่ศอก แกะสลักเป็นรูปเทพบริวารในคติความเชื่อของพราหมณ์  ได้แก่  แผ่นแรก คือ รูปพระอาทิตย์และพระจันทร์, แผ่นที่สองคือรูปพระแม่ธรณี และแผ่นที่สามคือรูปพระนางคงคา โดยทั้ง 3 แผ่น จะนำมาร่วมในขบวนแห่เพื่อรอรับเสด็จพระอิศวรที่เสด็จมาเยี่ยมมนุษย์โลก ณ เสาชิงช้า เชื่อกันว่าการเสด็จมาเยี่ยมมนุษย์โลกเพื่อประสาทพรให้เกิดความสงบสุข ให้เกิดน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ และช่วยคุ้มครองมนุษย์โลกให้ปลอดภัย ซึ่งตามความเชื่อการเสด็จลงมาของพระอิศวรจะต้องเสด็จลงมาในเดือนอ้าย ซึ่งเป็นปีใหม่ของชาวพราหมณ์ฮินดู ปัจจุบันประเพณีแห่นางดานจะจัดขึ้นในวันที่ 14 เมษายนของทุกปี

สาวๆ คนไหนที่เป็นสายมู ต้องไม่พลาดที่จะมาทำความรู้จักกับ “หัวนะโม” เครื่องรางของขลังที่คนนครรู้จักกันดี และมีความเป็นมายาวนานกว่า 700 ปี โดยเชื่อกันว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล คือทั้งด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และป้องกันภัยแคล้วคลาด แต่เดิมรูปแบบของหัวนะโมจะเป็นเม็ดเงินกลม แต่ภายหลังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นเครื่องประดับต่างๆ เพื่อให้สวมใส่ง่ายและสวยงาม ใครที่อยากซื้อหาก็ลองเข้าไปดูตามร้านเครื่องถมในนครศรีธรรมราชกันได้

พาไปขอพรกันแบบเต็มอิ่มแล้ว ลองแวะมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีที่ “ชุมชนพรหมโลก” มาถึงที่นี่ก็จะเห็นเทือกเขาหลวงตั้งตระหง่าน มี “น้ำตกพรหมโลก” ที่มีน้ำใสๆ เย็นฉ่ำไหลลงมาจากเทือกเขาหลวง นอกจากจะมาเล่นน้ำแล้วก็ยังได้เห็นต้นเฟิร์นมหาสดำ ที่เป็นต้นไม้ดึกดำบรรพ์ ต้นไม้หายากอีกหนึ่งชนิด

เล่นน้ำเหนื่อยแล้ว ที่ชุมชนพรหมโลกก็มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ให้แวะพัก ชาวบ้านที่นี่จะต้อนรับเราด้วยอาหารท้องถิ่นที่อร่อยเด็ด ได้อาศัยอยู่กับชาวบ้านจริงๆ ทดลองทำผ้าบาติก ทำอาหารใต้ ทำกิจกรรมสนุกๆ รวมถึงให้คนท้องถิ่นพาเที่ยวด้วยก็ได้

อีกแห่งที่ต้องถือว่ามีอากาศดีที่สุดของไทย ก็คือที่ “บ้านคีรีวง” ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาหลวงทอดตัวเด่นเป็นสง่าเช่นกัน พร้อมทั้งความเขียวขจีของผืนป่าต้นน้ำ และคลองท่าดีที่มีน้ำใสไหลเย็น เป็นภาพสวยงามสบายตา มาแวะพักซึมซับอากาศบริสุทธิ์ให้อิ่มใจ ยลเสน่ห์ความเรียบง่ายของธรรมชาติใกล้ๆ ตัว

ด้านหนึ่งของนครศรีธรรมราชเป็นทะเลอ่าวไทย จึงทำให้มีที่เที่ยวริมทะเล อย่างที่ “สิชล” มาชมวิวทะเลและภูเขา ชายหาดเงียบสงบที่มีมุมสวยให้เลือกตามอัธยาศัย ผ่อนคลายกับแสงสุดท้ายในยามเย็น ก่อนจะตื่นรับวันใหม่พร้อมพระอาทิตย์ยามเช้าที่อบอุ่น ตื่นแล้วก็ออกไปหาเมนูท้องถิ่นอร่อยๆ มาลองชิมที่ตลาดเช้า รับรองว่าอิ่มอร่อยครบทั้งคาวหวาน

ทะเลงามอีกแห่งก็ต้องที่ “ขนอม” ซี่งมีแนวชายหาดที่มีความยาวมากๆ แบ่งออกเป็นหาดย่อยต่างๆ อย่างเช่น หาดหน้าด่าน หาดท้องโหนด หาดท้องเนียน หาดในเพลา เป็นต้น แต่ละแห่งก็สวยสงบเหมาะแก่การพักผ่อนท่ามกลางแผ่นฟ้าและผืนน้ำ และหากว่ามาถึงขนอมแล้ว อีกกิจกรรมที่ห้ามพลาดก็คือ การไปชมโลมาสีชมพู ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของเมืองขนอม ล่องเรือออกไปเที่ยวทะเลขนอม พร้อมลุ้นชมเจ้าโลมา (ทั้งโลมาสีชมพูและโลมาสีเทา) ที่มักจะปรากฏตัวให้เห็นอยู่ทั่วไป

แถมอีกที่สำหรับคนที่อยากดูแลตัวเอง กับการทำสปาโคลนที่ “บ้านแหลมโฮมสเตย์” ชุมชนชาวประมงเล็กๆ ใน อ.ท่าศาลา มาเยี่ยมเยือนชาวบ้าน สนุกสนานกับประสบการณ์การท่องเที่ยวชุมชนที่ได้รับการการันตีจากรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (รางวัลกินรี) ประจำปี 2562 ประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ห้ามพลาดกับการทำสปาโคลนที่ว่ากันว่าเป็นสุดยอดอีกแห่งของไทย และทีเด็ดอีกอย่างที่ไม่อยากให้พลาดก็คือการมาลองลิ้มเมนูสุดอร่อย “ข้าวมันทะเลโคลน” เป็นข้าวมันที่หุงรวมกับน้ำหมึกที่ได้จากหมึกสดจากทะเล เมล็ดข้าวจะออกสีเทาปนดำคล้ายสีของโคลน รสชาติหอมมันเคี้ยวเพลิน กินคู่กับซีฟู้ดสดๆ แบบจัดเต็ม

หลากหลายกิจกรรมที่สนุกสนานกันมาทั้งวัน ตกเย็นก็แวะเข้าพักในโฮมสเตย์ ชิมเมนูอร่อยจากวัตถุดิบสดๆ ในท้องถิ่น ก่อนจะตื่นแต่เช้าตรู่ รอชมแสงตะวันอบอุ่นยามเช้าที่ค่อยๆ ส่องสะท้อนขึ้นมาจากขอบฟ้า รับลมเย็นสบายที่พัดโชยมา พร้อมจิบกาแฟร้อนๆ กลิ่นหอมกรุ่นอุ่นอวลใจ เป็นยามเช้าที่แสนสดใสและมีความสุขในบรรยากาศสบายๆ ที่บ้านแหลม

พัทลุง

ใครที่ยังนึกถึงภาพของพัทลุงไม่ออก มาบอกคร่าวๆ ก่อนเลยว่าจังหวัดนี้ก็มีที่เที่ยวสวยๆ ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลน้ำเค็ม ทะเลสาบน้ำจืด ทะเลหมอก ทุ่งนา น้ำตก และวิถีชุมชน เรียกว่าเป็นสไตล์บ้านทุ่งสุดธรรมชาติ มีเสน่ห์แบบไม่ปรุงแต่ง

ความสวยแบบไม่ปรุงแต่งของพัทลุงเห็นได้ชัดเจนเลยที่ “คลองปากประ” ลำคลองที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ สายน้ำจะไหลไปออกยังทะเลหลวงที่เป็นส่วนบนของทะเลสาบสงขลา คลองปากประมีเสน่ห์ด้วยภาพของการยกยอยักษ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเครื่องมือประมงพื้นบ้านที่ปัจจุบันก็ยังใช้ทำมาหากินอยู่ หากอยากมาชมวิวสวยๆ ที่นี่ แนะนำให้มาในช่วงเช้าหรือเย็นที่มีแสงสวยๆ พระอาทิตย์ดวงโตส่องสีสันงามแปลกตาลงมากระทบกับสายน้ำ พร้อมกับภาพของชาวบ้านที่จะมายกยอกัน เป็นภาพวิถีชีวิตที่หาชมได้ยาก

แต่ถ้าถามถึงเรื่องไหว้พระขอพรก็ต้องมาที่ “วัดเขาอ้อ” เดินขึ้นภูเขาไปนมัสการรอยพระพุทธบาทจำลอง และเดินเข้าไปภายในถ้ำฉัททันต์บรรพต ถือเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ในอดีตเคยเป็นถ้ำที่เหล่าฤาษีและพราหมณ์ใช้บำเพ็ญพรต

อีกหนึ่งชื่อเสียงที่โด่งดังของวัดเขาอ้อก็คือการเป็น สำนักตักศิลามหาเวทย์แห่งปักษ์ใต้ เป็นสำนักไสยศาสตร์ที่รุ่งเรืองมาแต่โบราณ สืบทอดกันต่อมาหลายยุคหลายสมัย  ลูกศิษย์ลูกหาของวัดเขาอ้อล้วนเป็นผู้มีมนต์คาถาเข้มขลัง คงกระพันชาตรี มีวีรกรรมสำคัญจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะ ขุนพันธ์ (ขุนพันธรักษ์ราชเดช) มือปราบหนังเหนียวแห่งปักษ์ใต้ ก็ได้เคยมาร่ำเรียนวิชาคาอาคม และอาบน้ำว่านในรางยาที่วัดเขาอ้อ

แต่เดิมนั้นการแช่ว่านยาเป็นการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ต่อมาผู้ที่แช่ว่านยาสมุนไพรเกิดอยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า ภายหลังเลยนิยมไปแช่ว่านยาเพื่อให้อยู่ยงคงกระพัน ปัจจุบัน พิธีแช่น้ำว่านจะจัดขึ้นราวๆ เดือน 5 และ เดือน 10 ซึ่งในแต่ละปีรับได้เพียงไม่กี่คน

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ที่พัทลุงมีของดีจากธรรมชาติให้ได้ลิ้มลอง แถมกินแล้วดีต่อสุขภาพ อย่างแรกก็คือ “สาคูแท้” จากต้นสาคู ไม่ใช่เม็ดสาคูที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังแบบที่เคยเห็น เพราะสาคูที่นี่จะทำจากต้นสาคูแท้ๆ ในท้องถิ่น ใช้ลำต้นสาคูมาตำและคั้นจะได้แป้งสาคูสด หากนำมาทำเป็นเม็ดสาคูก็จะต้องนำแป้งสดมาร่อนในถาด เม็ดสาคูจะออกสีแดงๆ สัมผัสรสชาติละมุนนุ่มลิ้น แถมด้วยความหนึบหนับสุดฟิน หรือจะนำแป้งสาคูไปผสมทำเป็นขนมชนิดอื่นก็ได้

อีกอย่างที่ต้องลองก็คือ “ข้าวสังข์หยด” ที่ถือว่าเป็นราชินีข้าวกล้องพันธุ์พื้นเมือง รสชาติดี นุ่มหอม สารอาหารมากมาย ช่วยชะลอความแก่ ป้องกันความจำเสื่อม บำรุงโลหิต โรคหัวใจ มีกากใยสูงดีต่อระบบขับถ่ายและลำไส้

ใครอยากช้อปปิ้งสินค้าและอาหารท้องถิ่นต้องมาที่ “หลาดใต้โหนด” (ตลาดใต้โหนด) ตลาดสีเขียว กินดี มีสุข มีชาวบ้านในพื้นที่นำสินค้าปลอดสารพิษ พร้อมทั้งขนม-อาหารพื้นเมืองมาจำหน่ายในบรรยากาศตลาดพื้นบ้าน เดินสบายๆ ใต้ต้นไม้ที่รื่มรื่น

ส่วนของฝากสวยๆ งามๆ ที่พัทลุง ต้องยกให้ผลิตภัณฑ์จากกระจูด เป็นเครื่องจักสานที่ทำจากต้นกระจูด ทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ได้มากมาย ปัจจุบันมีการออกแบบให้ทันสมัย ใส่ความเป็นศิลปะลงไปได้อย่างลงตัว อยากลองหาร้านกระจูดดีไซน์เก๋ๆ แนะนำที่ “กระจูดวรรณี” มีข้าวของเครื่องใช้ให้เลือกสรรเป็นของใช้ของฝากมากมาย

แล้วก็ยังมี “กระจูดลูกปัดโนราห์” ที่ผสมผสานงานหัตถกรรมจากกระจูด เข้ากับลูกปัดโนราห์สีสันสวยงาม จะเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของพัทลุงอีกอย่างหนึ่งก็ว่าได้ เนื่องจากที่พัทลุงเป็นต้นกำเนิดของโนราห์ การละเล่นพื้นบ้านชื่อดังของภาคใต้ โนราห์มีเครื่องแต่งกายสีสันสวยงามจากลูกปัดเล็กๆ ที่ร้อยเรียงอย่างมีศิลปะ เกิดเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และถูกนำมาใช้ประกอบกับกระจูดที่เป็นพืชท้องถิ่น กลายมาเป็นเครื่องประดับและของใช้ที่งดงาม

ตรัง

เมืองทะเลสวยอีกแห่งหนึ่งของฝั่งอันดามัน ยิ่งในช่วงฤดูร้อน ฟ้าใสๆ แดดแรงๆ ยิ่งเหมาะกับการไปเที่ยวทะเลเหลือเกิน ทะเลตรังที่สวยสุดๆ ตอนนี้ต้องยกให้ “เกาะเหลาเหลียง” ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะเภตรา ด้วยเหตุที่เคยอยู่ในเขตสัมปทานรังนก ทำให้กลายเป็นพื้นที่ปิดมานาน สภาพธรรมชาติบนเกาะและในทะเลจึงยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่ หาดทรายสีขาว ทรายนุ่มละเอียด น้ำทะเลใส มีภูเขาหินปูนเป็นฉากหลัง วิวสวยสุดๆ ขนาดนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

รอบๆ เกาะเหลาเหลียงมีจุดดำน้ำตื้นอยู่หลายจุดสำหรับคนที่ชอบดำน้ำดูปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล แล้วก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เลือกอีกหลายอย่าง เช่น พายเรือคายัค ปีนผา ดำน้ำลึก เป็นต้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายแอดเวนเจอร์ ถ้าหากอยากจะค้างคืนบนเกาะ ที่นี่ก็มีที่พักสะดวกสบายให้บริการ แต่ต้องบอกก่อนว่าเกาะเหลาเหลียงจะปิดในช่วงมรสุม (ประมาณเดือนมิถุนายน-ตุลาคม) ฉะนั้นจะท่องเที่ยวได้ในบางช่วงของปีเท่านั้น

ส่วนเกาะที่ใหญ่ที่สุดของตรังก็คือ “เกาะลิบง” นอกจากจะมาชมธรรมชาติสวยๆ บนเกาะแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นบ้านหลังใหญ่ของพะยูน เนื่องจากที่เกาะลิบงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูน ฉะนั้น ที่นี่จึงเป็นจุดที่ดีที่สุดในชมวิถีชีวิตของเหล่าพะยูนที่จะขึ้นมากินหญ้าทะเลในช่วงน้ำทะเลลด มาดูพะยูนแล้วก็ต้องช่วยให้พะยูนได้อยู่กับเราไปนานๆ ด้วยการมาช่วยกันปลูกหญ้าทะเลที่เกาะลิบง แล้วก็อนุรักษ์หญ้าทะเลที่มีอยู่ด้วยการช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงทะเล

อีกเกาะที่ใหญ่รองลงมาก็คือ “เกาะสุกร” มาชมวิวทะเลสวยๆ ในมุมสูง สัมผัสกับวิถีชุมชนบนเกาะ อย่างแปลงนาข้าวที่ปลูกเพื่อบริโภคกันบนเกาะ ลองทำผ้าบาติกสวยๆ นั่งซาเล้งเที่ยวรอบเกาะ แต่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการมาชิมแตงโมรสชาติดี ที่ขึ้นชื่อเลื่องลือความอร่อยไปทั่วทิศ แตงโมงที่เกาะสุกรนั้นเนื้อสีแดง รสหวานกรอบ เนื่องมาจากพื้นดินบริเวณนี้เป็นดินทรายชายทะเล เป็นพื้นที่น้ำกร่อย หากว่าใครมาแล้วไม่ได้ลองชิมแตงโมก็เหมือนยังมาไม่ถึงเกาะสุกร

เกาะอื่นๆ ในทะเลตรังที่ชวนไปเที่ยวก็อย่างเช่น “เกาะกระดาน” ถือว่าเป็นไฮไลต์อีกแห่งของทะเลตรัง ด้วยความที่มีชายหาดสุดสวย เงียบสงบ ทอดตัวยาวเป็นแนวหลายร้อยเมตร ทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสแจ๋ว “เกาะมุก-ถ้ำมรกต” ซึ่งต้องลอยคอเรียงตัวกันเข้าไปด้านในถ้ำ เมื่อพ้นแล้วก็จะพบกับปล่องถ้ำสูงที่มีชายหาดขนาดย่อมอยู่ภายใน ยามแสงอาทิตย์สาดส่อง น้ำทะเลในนี้จะสะท้อนแสงเกิดสีสันสวยงามดุจดังมรกตดูน่าอัศจรรย์ “เกาะเชือก” จุดดำน้ำที่มีกระแสน้ำแรงจนต้องดำน้ำแบบเกาะเชือกไปด้วย ใต้น้ำนั้นมีปะการังสวยงามและฝูงปลาจำนวนมาก “เกาะม้า” แหล่งดำน้ำตื้นที่มีไฮไลต์คือปะการังอ่อน 7 สีอันสวยงาม

ส่วนชายหาดสวยๆ ของตรังก็มีอยู่หลายที่ ทั้ง “หาดปากเมง” หาดสวยที่เงียบสงบ มีป่าสนตามธรรมชาติอยู่ด้านหลัง เป็นจุดเช่าเรือออกไปเที่ยวเกาะต่างๆ ในทะเลตรัง “หาดเจ้าไหม” เป็นชายหาดทรายขาวละเอียด มีพื้นที่กว้างและตื้น เหมาะกับการลงเล่นน้ำ “หาดหยงหลิง” หาดทรายรูปโค้งขนานไปกับป่าสน สุดหาดมีเวิ้งและโพรงถ้ำที่สามารถลอดออกไปสู่หน้าผาริมทะเลได้

นอกจากจะเที่ยวทะเลแล้ว ตรังก็ยังมีที่เที่ยวบนฝั่งที่ชวนแวะอยู่อีกหลายแห่ง เริ่มจาก “กันตัง” อดีตเมืองท่าสำคัญและศูนย์กลางการคมนาคม ปัจจุบัน กันตังก็ยังมีเสน่ห์ที่ตกทอดจากอดีตจนถึงตอนนี้ มีหลายจุดที่เป็นอาคารโบราณสวยๆ อาทิ “สถานีรถไฟกันตัง” อาคารสถานีรถไฟสไตล์วินเทจสีเหลืองมัสตาร์ดตัดกับสีน้ำตาล เป็นสถานีรถไฟสุดท้ายของทางรถไฟสายใต้ฝั่งอันดามัน “พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์” หรือจวนเก่าเจ้าเมืองตรัง และถ้าใครอยากเห็นต้นยางพาราต้นแรกของประเทศ ก็อยู่ที่กันตังนี่เอง “ยางพาราต้นแรก” ได้มาจากพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ที่นำเมล็ดยางพารามาจากมาลายู มาทดลองปลูกเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว และยังยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบันนี้

ส่วนใครที่ชอบเดินดูสตรีทอาร์ต ในเมืองกันตังก็มีสตรีทอาร์ตสวยๆ ให้ได้ชมกันถึง 12 จุด ภายใต้แนวคิด วิถีกันตังคัลเลอร์ฟูล ปรากฏอยู่ตามผนังและกำแพงในเมือง มาถ่ายรูปชิคๆ คูลๆ กันได้ตามสไตล์

แต่ถ้าชอบบรรยากาศแบบวิถีชุมชนท่ามกลางธรรมชาติ ต้องมาที่ “นาหมื่นสี” ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน เที่ยวถ้ำช้างหาย ชมวิวท้องนากว้างไกล ทำความรู้จักกับลูกลม ที่จะเล่นกันในช่วงฤดูเกี่ยวข้าว อาศัยแรงลมทำให้มีเสียงต่างๆ กัน โดยยังสืบทอดกันมาจนทุกวนนี้ และมีการจัดงานแลลูกลม ชมถ้ำช้างหาย ติดต่อกันมาหลายสิบปีแล้ว

เที่ยวกันเยอะแล้ว หันมาดูของอร่อยของชาวตรังกันบ้าง ต้องบอกว่าที่ตรังนี่แหละเป็นเจ้ายุทธจักรแห่งความอร่อย เพราะมีของดีให้ชิมกันเยอะแยะเลยทีเดียว เอาแค่เฉพาะมื้อเช้าก็แทบจะอิ่มไปตลอดทั้งวันแล้ว มีทั้งโกปี๊ ติ่มซำ หมูย่าง แต่ละอย่างมาแบบอลังการและอร่อยถูกปากมากๆ แล้วก็ยังมีเค้กมีรูของเมืองตรัง ขนมเปี๊ยะ ขนมจีบสังขยา หมี่หนำเหลี่ยว ราดหน้าร้านล่อคุ้ง ไหนจะเมนูปักษ์ใต้รสชาติจัดจ้าน ปิดท้ายด้วยโรตีเป็นของหวานล้างปากให้เต็มอิ่ม

มีที่เที่ยวสนุกสนาน ไหว้พระขอพร กิจกรรมหลากหลาย อร่อยอิ่มหนำแบบดีต่อสุขภาพ ชวนสาวๆ เก็บกระเป๋ามาเที่ยวนครศรีธรรมราช พัทลุง และตรัง ให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ นอกจากจะมาเที่ยวแล้ว ก็ยังมีโปรโมชั่นส่วนลดสุดพิเศษที่พักหลากสไตล์  ที่ห้ามพลาดมาให้เลือกพักกันอย่างสบายกระเป๋า

คลิกดู สิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ 

ตั้งแต่ 1 มี.ค.63 – 31 ส.ค.63   ได้ที่  https://bit.ly/32HWlNp

You may also like...