Thailand

“ชิมกุ้งเหยียด” บ้านสาขลา จ.สมุทรปราการ

by admin · Published October 11, 2017 · Updated October 11, 2017

เที่ยว บ้านสาขลา ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ ชิมเมนูกุ้งเหยียด อาหารพื้นเมืองแสนอร่อย จากภูมิปัญญาชาวประมง ที่มีอาชีพเลี้ยงกุ้งธรรมชาติ เที่ยวชม “วัดสาขลา” นมัสการหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์ พระปรางค์เอียง ลูกนิมิตโบราณ พระพุทธรูปเก่าแก่ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน

“บ้านสาขลา” ตั้งอยู่บริเวณริมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

ชุมชนบ้านสาขลา เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ ริมปากอ่าวไทย แห่งสมุทรปราการ ที่มีร่องรอยของประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย หรือ อยุธยาตอนต้น

อาชีพของชาวบ้านส่วนใหญ่ ทำวังกุ้ง และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทะเล เช่น กุ้งเหยียด กุ้งแห้ง กะปิ ปูสตาฟ ปูรามเกียรติ์ ฯลฯ

มีของดีประจำหมู่บ้าน คือ “กุ้งเหยียด” เป็นการแปรรูปอาหารทะเลที่อร่อยล้ำ หนึ่งเดียวในประเทศไทย

ชมวิธีทำกุ้งเหยียด ที่ “กุ้งเหยียดป้าสุนทร”
OTOP ของบ้านสาขลา ผลิตโดย กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรนาเกลือพัฒนา

“กุ้งเหยียด” เป็นกุ้งที่นำมาเหยียดตัวให้ตรง เคี้ยวหนึบ รสชาติหวาน เค็ม ครบรส

วิธีทำ นำกุ้งขาว นำมาดัดหลังให้ตรง และเรียงใส่หม้อทีละชั้น อย่างเป็นระเบียบ

โรยน้ำตาลทราย และเกลือป่น ลงไประหว่างชั้น

ทับด้วยของหนัก เช่น เขียงไม้ ครกหิน เพื่อให้กุ้งเหยียดตรง ไม่งอตัว ก่อนจะไปต้มให้สุก

กุ้งเหยียด กินกับน้ำจิ้มได้หลากหลาย เพิ่มรสอร่อย เช่น น้ำมะนาว น้ำพริกกะปิ

กุ้งเหยียดเก็บไว้รับประทาน ได้นาน 5 วัน หากเก็บไว้ในตู้เย็น จะเก็บได้นานเป็นเดือน

เที่ยวชม “วัดสาขลา” ศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านสาขลา ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

เมื่อเข้ามาในวัด จะเห็นเจดีย์เก่าแก่ ตั้งอยู่ริมคลอง มีลักษณะเอียง จึงเรียกกันว่า “พระปรางค์เอียง”

เกิดจากการทรุดตัวของแผ่นดินจากน้ำท่วมขัง เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ทำให้พระปรางค์เอียง แต่ก็มิได้โค่นล้มแต่อย่างใด

ภายในโบสถ์ ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา

จากเหตุการณ์ในอดีต ไฟไหม้หมู่บ้าน เกิดปาฏิหาริย์ มีผู้เห็นหลวงพ่อโต ยืนเอาจีวรโบกไฟ ที่กำลังรุกไหม้ จนค่อยๆ ดับลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน ทำบุญให้กับหลวงพ่อโต ทุกวันที่ 6 มกราคม ของทุกปี

ที่วัดสาขลา มีการเดิน “ลอดโบสถ์” ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ และเพื่อความเป็นสิริมงคล

ทางเข้าลอดโบสถ์ เป็น “ซุ้มพระราหู” ดูน่าเกรงขาม แสดงถึงการปัดเป่า และป้องกันสิ่งชั่วร้าย

สักการะ “ลูกนิมิต ลูกเอก”
ทำจากศิลาแลง เป็นทรงเหลี่ยม แตกต่างจากวัดอื่นๆ ที่เป็นทรงกลม เนื่องจาก ในสมัยก่อน ยังไม่มีช่างฝีมือในการทำ จึงได้นำศิลาแลงมาใช้เป็นลูกนิมิต

ลูกนิมิตที่วัดสาขลา เป็นลูกนิมิตโบราณ อายุกว่า 250 ปี มีทั้งหมด 9 ลูก นำขึ้นมาจากฐานเก่า ลูกเอก วางไว้ใต้โบสถ์ ส่วนลูกอื่นๆ วางไว้รอบโบสถ์ ประจำทิศทั้ง 8

“ลอยบัว ขอพรพระบัวเข็ม”
พระบัวเข็ม ประดิษฐานอยู่ในบึงบัว แวดล้อมด้วยดอกบัวมากมาย ซึ่งสาธุชนสามารถมาลอยบัว ขอพรพระบัวเข็มได้

ด้านข้างพระบัวเข็ม มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ให้สักการะมากมาย อาทิ หลวงพ่อโต หลวงปู่มั่น หลวงพ่อสด หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเงิน เป็นต้น

“พระสองพี่น้อง”
พระพุทธรูปที่ขุดพบหน้าวิหารหลวงพ่อโต มีลักษณะครึ่งองค์ ยืนหันหลังพิงกัน ปางห้ามญาติ และ ปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอยุธยา

“บ่อน้ำจืดศักดิ์สิทธิ์”
บริเวณที่ขุดพบ หลวงพ่อสองพี่น้อง เป็นบ่อน้ำจืด ที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ช่วยป้องกันภัยทั่วทิศ

เอามือแตะ “ฐานหลวงพ่อโต” เพื่ออธิษฐานขอพร จากหลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์

เดินลอดท้องช้าง ออกจากใต้โบสถ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ตามทางเดินมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้สักการะ เช่น แม่นางไม้ เทวดาประจำวันเกิด บรมครูปู่ชีวกโกมารภัจ ฯลฯ

“พิพิธภัณฑ์เทพศรีสาขลา”
รวบรวมมหาเทพจากศาสนาฮินดูมากมาย อาทิ พระพิฆเนศปางต่างๆ พระตรีมูรติ พระแม่ธรณีมวยผม พญาครุฑ และจิตรกรรมฝาผนัง บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่สวยงาม